วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แนะนำโหมดเนื้อเรื่อง
















ตัวเอกที่เป็นขุนศึกหน้าใหม่ ได้ถูกเรียกเข้ามาประจำการในเมือง Aurora
แต่ยังไม่ทันที่จะทันได้ทำอะไร ก็ต้องพบเจอกับการลอบบุกโจมตีของเหล่าลูกสมุนจากเมืองใกล้เคียง







First Battle



ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการควบคุมตัวละครขั้นพื้นฐานให้ผู้เล่นได้รู้

เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด ( จริง ๆ แล้วเป็นไปไม่ได้ เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ตัวเกมจะกำหนดให้เราชนะ )

ศัตรูภายในฉาก :








หลังจากที่รบชนะแล้ว Koroku และ Nagayasu จะหนีกลับไปที่เมือง Ignis



หญิงสาวลึกลับ ที่ปรากฏตัวออกมาช่วยเราไว้เมื่อสักครู่นี้ จะแนะนำตนเองว่าเธอชื่อ Oichi และจะขอร่วมเดินทางไปกับเราด้วย



ซึ่งตรงจุดนี้ ไม่ว่าจะตอบปฏิเสธไปสักกี่ครั้ง ผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิม 
คือไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะขอเดินทางไปกับเราให้ได้


หลังจากนั้น เธอจะแนะนำให้เราเข้าไปสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมือง Aurora ( สามารถทำได้โดยการกด A ที่เมือง แล้วเลือก Enter )
จะพบว่ามี Farm ซึ่งเป็นคล้าย ๆ ดันเจี้ยนสำหรับใช้เก็บค่า Link
โดยภารกิจครั้งนี้คือการเข้าไปฝึกฝนใน Farm





Farm


ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการความรู้ขั้นพื้นฐานของความสามารถพิเศษ ( Ability ) ที่โปเกมอนมี ให้ผู้เล่นได้รู้

เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :










หลังจากที่ชนะแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องกดผ่านไปยังเดือนถัดไป เนื่องจากได้ใช้งานขุนศึกที่มีอยู่จนครบหมดทุกคนแล้ว

ซึ่งหลังจากที่ได้กดผ่านไปยังเดือนถัดไปแล้ว จะมี Cutscene สั้น ๆ 
เกี่ยวกับการระเบิดอารมณ์ของ Hideyoshi หลังจากที่รู้ผลการรบของพวก Koroku

ให้กดเข้ามาสำรวจภายในเมือง Aurora อีกครั้ง จะพบว่ามีดันเจี้ยนใหม่เพิ่มเข้ามา คือ Ravine







Ravine

ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการใช้ความสามารถพิเศษของขุนศึก ( Warrior Skill ) เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนโปเกมอน ให้ผู้เล่นได้รู้

เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :




โดยหลังจากที่ชนะและกดข้ามไปยังเดือนถัดไปแล้ว เราสามารถที่จะเลือกได้ว่า จะบุกเข้าโจมตีเมือง Ignis ของ Hideyoshi เลย หรือจะอยู่เก็บค่า Link ในดันเจี้ยนต่อ

ซึ่งถ้าหากเลือกที่จะบุกเข้าโจมตีเมือง Ignis ก็จะต้องมาสู้ในสนามรบที่เต็มไปด้วยธารลาวา และเปลวเพลิง






Ignis


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
โปเกมอนธาตุไฟของฝ่าย Hideyoshi จะสามารถเดินผ่านธารลาวาได้ ( ในขณะที่ฝั่งเราทำไม่ได้ )
โดย Chimchar โปเกมอนของ Hideyoshi นั้น จะสามารถเคลื่อนที่ได้ในระยะทางที่ไกลมาก ๆ
และเมื่อสู้ไปได้สักพัก ก็จะมีเศษหินอัคนีจากปากปล่องภูเขาไฟ สุ่มตกลงมาสร้างความเสียหายให้กับโปเกมอนอีกด้วย


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :








หลังจากที่สามารถเอาชนะได้แล้ว เราจะยึดเมือง Ignis ได้ ส่วน Hideyoshi และเหล่าลูกสมุนจะหนีไป



ในขณะที่พวกตัวเอกกำลังยินดีกับการที่ได้รับชัยชนะ ก็ได้มีชายหนุ่มท่าทางประหลาด ชื่อ Keiji เข้ามาบอกว่า
พวกตัวเอกนั้น จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ และได้ชักชวนให้เข้าไปพบที่ในเมือง Ignis


ซึ่งหลังจากที่ได้เข้ามาในเมืองแล้ว เขาจะอธิบายว่า ยังมีขุนศึกอีกมากมายใน Ransei ที่ไม่ได้เข้าร่วมสังกัดกองทัพใด ๆ 
ซึ่งอาจพบเจอกับพวกเขาได้ในบางสถานที่ อย่างเช่น ถ้ำ

หลังจากแนะนำเสร็จ เขาจะเดินทางจากไป ส่วน Oichi นั้น ก็จะชวนให้ตัวเอกเดินทางเข้าไปสำรวจในถ้ำ





Cave


ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับเงื่อนไขในการที่จะได้ขุนพลฝ่ายศัตรูมาเข้าร่วมกองทัพ ให้ผู้เล่นได้รู้

เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :






หลังจากที่สามารถเอาชนะเขาได้ภายใน 4 Turn แล้ว ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อม ( Recruit ) ให้เขามาเข้าร่วมกองทัพของเราได้


และเมื่อทำการกดข้ามเดือนแล้ว เราสามารถที่จะเลือกได้ว่า จะทำการโจมตีเมือง Greenleaf , Fontaine หรือจะเข้าไปทำการเก็บค่า Link ในถ้ำต่อ

( ซึ่งตรงจุดนี้ ผมอยากจะแนะนำให้กลับเข้ามาลุยถ้ำอีกครั้ง เพราะจะมีขุนศึกที่สามารถช่วยให้เราได้เปรียบการรบกับเมือง Greenleaf รออยู่ด้านใน )








โดย Darumaka นั้น จะเป็นโปเกมอนที่โจมตีได้รุนแรงมากในช่วงแรก ๆ เนื่องจากมี Ability อย่าง Run Up
ที่จะช่วยเพิ่มความเสียหายให้มากขึ้นตามระยะทางที่ได้เดินไป ก่อนที่จะทำการโจมตีศัตรู
( ยิ่งวิ่งมาโจมตีจากระยะไกล ศัตรูก็จะยิ่งเจ็บหนัก เป็นอีกหนึ่ง Ability ที่ดีที่สุดในเกม )


สนามรบต่อไป ที่อยากจะแนะนำให้เข้าทำการโจมตี ก็คือ Greenleaf เพราะขุนศึกที่นี่ จะใช้แต่โปเกมอนหญ้า ซึ่งแพ้ทางโปเกมอนไฟเป็นอย่างมาก
( ตรงจุดนี้ ผู้เล่นอาจเลือกที่จะข้ามไปสู้กับทาง Fontaine เลยก็ได้ แต่โอกาสชนะจะมีต่ำมาก )


และถ้าหากเลือกที่จะเข้ามาทำการรบกับเมือง Greenleaf แล้ว ก็จะต้องพบเจอกับทางวงกต ที่เต็มไปด้วยกับดัก และลูกเล่นใหม่ ๆ มากมาย






Greenleaf


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีกติกาใหม่ คือต้องยึดธงที่มีอยู่ให้หมด จึงจะเป็นฝ่ายชนะ
และภายในฉาก จะเต็มไปด้วยหลุมกับดัก ที่ถ้าหากตกลงไปแล้ว จะไม่สามารถทำอะไรได้เลยเป็นเวลา 1 Turn
นอกจากนั้น ภายในฉากยังมีสะพานเถาวัลย์ ที่คอยช่วยให้พวกศัตรูเข้ามายึดธงได้เร็วขึ้นอีกด้วย
( การใช้ทางลับที่เป็นจุดพุ่มไม้สีเขียว จะช่วยให้เราเข้าถึงบริเวณที่ธงปักอยู่ได้เร็วขึ้น )



เงื่อนไขการรบชนะ : ยึดธงที่มีให้ครบหมดทุกธง
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูสามารถยึดธงได้ครบก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดจนหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :




หลักจากที่ได้รับชัยชนะ Motonari จะยกเมือง Greenleaf ให้เรา และขอเลือกที่จะเดินทางจากไปอย่างเงียบ ๆ
** ผู้เล่นควรที่จะกำจัดศัตรูทั้งหมดก่อนที่จะเข้าไปยึดธงให้ครบ เนื่องจากจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกน้องของ Motonari ให้มาเข้าร่วมกองทัพได้
ซึ่งพวกเขาจะใช้โปเกมอนหญ้า ทำให้เราได้เปรียบในการเข้าโจมตีเมือง Fontaine **


สนามรบถัดไปคือเมือง Fontaine ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำใสสะอาด ขุนศึกที่นี่จึงใช้โปเกมอนน้ำในการรบ






Fontaine



จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
มีการวางระบบชลประทานไว้เพื่อขวางการเดินทัพของศัตรู ซึ่งถ้าเราไม่นำโปเกมอนไปกดปุ่มให้กลไกทำงาน ก็จะเดินผ่านทางน้ำไปไม่ได้
ในขณะที่โปเกมอนน้ำฝั่งศัตรูนั้น สามารถเคลื่อนที่ในบริเวณที่มีน้ำได้อย่างอิสระ
ส่วนน้ำพุทางด้านซ้ายนั้น จะทำการยิงน้ำแรงอัดสูงใส่โปเกมอนที่เดินผ่าน ซึ่งนับได้ว่ารุนแรงพอสมควร สำหรับโปเกมอนที่มีค่า Defense น้อย


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :




หลังจากที่ชนะแล้ว เราจะสามารถยึดครองเมือง Fontaine ได้ ส่วน Motochika นั้นจะพูดทิ้งท้ายเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินทางจากไป



ในช่วงค่ำ Oichi จะพูดคุยและปรึกษากับตัวละครเอก ซึ่งเธอจะพูดถึงขุนศึกผู้หนึ่ง



ที่มีชื่อว่า Nobunaga ซึ่งเป็นผู้ที่ทำการยึดครองดินแดนด้วยวิธีที่เหี้ยมโหดอำมหิต
Oichi จึงต้องการที่จะให้ตัวละครเอกช่วยหยุดความทะเยอทะยานอันบ้าคลั่งของเขา 
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีความสูญเสียจากการศึกสงครามเกิดขึ้นอีก


หลังจากนี้ จะมีเป้าหมายในการยึดครองเพิ่มเข้ามาอีก 3 เมือง คือ Violight , Chrysalia และ Pugilis
( ซึ่ง Pugilis นั้น เรียกได้ว่าแข็งแกร่งจนเกินกว่าที่จะสามารถเอาชนะได้ในตอนนี้
ดังนั้นผมจึงอยากแนะนำให้ไปโจมตีเมือง Violight ก่อน )




Violight




จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีกลไกสำหรับปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงอยู่ที่พื้น ซึ่งถ้าไปเหยียบเข้า ก็จะเป็นการส่งกระแสไฟฟ้าไปโจมตีที่ฟากตรงข้าม
นอกจากนั้น เมื่อสู้ไปได้สักพัก จะมีกระแสไฟฟ้าสุ่มพุ่งลงมาโจมตีโปเกมอนจากด้านบนอีกด้วย
( โปเกมอนสายฟ้าของฝั่งศัตรู จะสามารถเคลื่อนที่ผ่านบริเวณที่มีกระแสไฟฟ้าแรงสูงได้อย่างอิสระ )




เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :








หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Violight ได้
ส่วน Ginchiyo และ Muneshige นั้นจะหนีไป ซึ่งจะสามารถสุ่มพบเจอเธอ / เขา ได้ตามดันเจี้ยนต่าง ๆ หลังจากนี้
( ถ้าหากสามารถจัดการโปเกมอนของ Ginchiyo หรือ Muneshige ได้ภายใน 4 turn
โดยที่โปเกมอนของตัวละครเอก / Oichi นั้นไม่ได้รับความเสียหายเลย
ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เข้าร่วมกองทัพของเราได้ทันที
โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปรอให้เธอ / เขา ปรากฏตัวในดันเจี้ยน )



เมื่อเลือกเมืองที่จะให้ขุนศึกที่เกลี้ยกล่อมมา เข้าไปประจำการได้แล้ว
ก็จะมี Cutscene การแนะนำเกี่ยวกับฟังก์ชั่นการมอบอำนาจ ( Delegate ) ของสมาชิกกลุ่มขุนศึกวัยเยาว์

ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ จะเป็นคล้าย ๆ กับการมอบหมายให้ขุนศึกที่อยู่ในเมืองอื่น นอกเหนือจากเมืองที่ตัวเอกประจำการอยู่
 ทำการใส่ออฟชั่นเสริมเข้าไปในเมือง ซึ่งจะมีผลเพิ่มเติมจากค่าเดิมเล็กน้อย

 

** Train จะส่งผลทำให้ค่า Link เพิ่มไวขึ้น , Search จะทำให้ขุนศึกระดับบุคคลสำคัญ หรือโปเกมอนหายาก ปรากฏตัวในดันเจี้ยนง่ายขึ้น
ส่วน Develop นั้น จะส่งผลเกี่ยวกับค่า Energy ของโปเกมอน และทองที่ได้รับ **


หลังจากที่กลุ่มสมาชิกขุนศึกวัยเยาว์เดินทางจากไปแล้ว ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะกดข้ามไปยังเดือนถัดไปได้ทันที
ซึ่งเมื่อขึ้นเดือนใหม่ Keiji จะปรากฏตัวมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เล่นอีกครั้ง

โดยในตอนนี้ เราสามารถที่จะใช้ฟังก์ชั่น Password ที่เป็นฟังก์ชั่นสำคัญในเกมได้แล้ว
( กด Start แล้วเลือก Password )



ซึ่งให้ทำการใส่ Password ลงไปว่า J2TRZXPUm3 ตามที่ท่านเห็นในภาพด้านบน 
เพื่อทำการปลดล็อค Event ลับ

ในตอนนี้สิ่งที่น่าปฏิบัติ คือการนำทัพของตัวละครเอกไปฝึกฝน เพื่อเพิ่มค่า Link
และใช้คำสั่ง March นำเหล่าขุนศึกที่มีค่า Strength สูง ๆ ไปรวมกันไว้ที่เมือง Greenleaf เพื่อทำการขุดแร่หาทอง
( River of Gold ในเมือง Fontaine นั้น ต้องเล่นจบเกมไปก่อน 1 รอบ จึงจะสามารถเปิดใช้งานได้ )


หลังจากที่ได้กดข้ามเดือนแล้ว Event จาก Password ที่ได้ใส่ไปในเดือนก่อนก็จะทำงาน
ซึ่งเป็น Password ที่มีไว้สำหรับปลดล็อค Event ลับของ Motochika และ Motonari


ซึ่งจะทำให้เราได้พวกเขามาเข้าร่วมกองทัพ
( ทั้งสองคนนี้แกร่งมาก ชนิดที่ว่า สามารถใช้เล่นในทัพหลักจนจบเกมเลยก็ยังได้ )



นอกจากนั้น ฟังก์ชั่นการ Link กับโปเกมอนป่า ก็ได้ถูกเปิดใช้งานแล้วด้วยเช่นกัน
( การทำ Link กับโปเกมอนป่าในภาคนี้ จะเปรียบเสมือนกับการจับโปเกมอนในภาคก่อน ๆ )

โดยเราจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่น Link ได้เฉพาะกาารต่อสู้ในดันเจี้ยนเท่านั้น


ซึ่งจะมีเพิ่มเข้ามาถัดจากคำสั่ง Fight และ Wait ในฉากต่อสู้

โดยตัวเกมจะแบ่งระดับความเข้ากันได้ ระหว่างขุนศึกและโปเกมอนไว้ 3 ระดับด้วยกัน คือ

 Bronze  หมายถึง พอเข้ากันได้

 Silver  หมายถึง เข้ากันได้ดี

 Gold  หมายถึง เข้ากันได้ดีมาก

โปเกมอนจะสามารถเข้ากับขุนศึกได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าขุนศึกคนนั้น ๆ ถนัดการใช้โปเกมอนรูปแบบไหน
โดยผู้เล่นสามารถตรวจสอบรูปแบบของโปเกมอนที่ขุนศึกถนัดใช้ได้
ด้วยการกดดูที่ Info แล้วกดปุ่ม L

สำหรับการทำ Link นั้น ให้ผู้เล่นนำโปเกมอนของขุนศึกที่ต้องการจะให้ทำ Link เข้าไปประชิดตัวโปเกมอนป่า
จากนั้นจึงเลือกคำสั่ง  แล้วเลือกโปเกมอนป่าที่ต้องการ จากนั้นให้กด A เพื่อยืนยัน

จะมีหน้าจอพิเศษสำหรับการทำ Link ขึ้นมาแบบนี้




โดยผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องกด A ในตอนที่กระแสจิตของโปเกมอน ( ลูกพลังงานกลม ๆ สีเหลือง ๆ )
วิ่งจากทางซ้ายมือ มาที่เขตวงกลมที่มีเส้นประอยู่รอบ ๆ ตัวอักษร A ทางด้านขวามือ
ซึ่งถ้ากดถูกจังหวะ เกจ Link ก็จะเพิ่ม
แต่ถ้ากดรัว ๆ มั่ว ๆ ในตอนที่กระแสจิตยังวิ่งมาไม่ถึง เกจ Link ก็จะลดลงทุกครั้ง

ซึ่งเมื่อเกจ Link เต็ม การ Link ก็จะเสร็จสมบูรณ์ และขุนศึกจะได้รับโปเกมอนป่าตัวนั้นมาใช้งาน
( หากไม่สามารถกดให้ค่า Link เต็มภายในการทำ Link ครั้งแรกได้
ผู้เล่นสามารถทำ Link กับโปเกมอนตัวเดิมซ้ำได้ใน Turn ถัดไป
โดยที่เกจ Link จะยังคงมีมากเท่าเดิม )



หากท่านได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว สนามรบถัดไปที่อยากจะแนะนำ ก็คือ Chrysalia





Chrysalia


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมี Pokémari ขนาดยักษ์ วางอยู่กระจัดกระจายตามพื้น
( มีที่มาจาก Pokémon รวมกันกับคำว่า Temari ที่เป็นชื่อของลูกบอลโบราณของชาวญี่ปุ่น )

ซึ่ง Pokémari ที่ว่านี้ ผู้เล่น และฝั่งศัตรูสามารถเข้าไปโจมตีใส่ได้
เมื่อถูกโจมตี จะกระเด็นไปตามทิศทางนั้นเป็นเส้นตรงจนสุดขอบจอ โปเกมอนที่ยืนขวางทาง จะถูก Pokémari  ทับ 

นอกจากนั้นแล้ว ยังจะมีรั้วกับดัก ที่ถ้าโดนเข้าไป จะถูกขังเอาไว้ในนั้นเป็นเวลาค่อนข้างนาน ( ฝั่งศัตรูก็สามารถถูกรั้วขังได้เช่นเดียวกัน )


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :



หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Chrysalia ได้
ส่วน Yoshimoto นั้นจะหนีไป ซึ่งผู้เล่นสามารถสุ่มพบเจอเขาได้ตามดันเจี้ยนหลังจากนี้
( หากสามารถจัดการโปเกมอนของ Yoshimoto ได้ภายใน 4 turn
โดยที่โปเกมอนของขุนศึกระดับบุคคลสำคัญนั้น ไม่ได้รับความเสียหายเลย
ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้าร่วมกองทัพของเราได้ในทันที )



และเป้าหมายการโจมตีสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงเมือง Pugilis
ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผู้เล่นก็จะพบว่า
ความสามารถโดยรวมของกองทัพในตอนนี้ สามารถที่จะต่อกรกับพวกเขาได้อย่างสบาย ๆ แล้ว






Pugilis


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะใช้กติกาเฉพาะ ซึ่งแต่ละฝ่ายนั้น 
จำเป็นที่จะต้องยึดธงทั้ง 4 มุม ไว้ให้ได้นานติดต่อกัน 5 Turn จึงจะเป็นฝ่ายชนะการรบ
( หรือจะกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้หมด แล้วค่อยไปยึดธงให้ครบ ก็จะชนะได้เช่นเดียวกัน )
โดยโปเกมอนฝ่ายศัตรู จะสามารถโจมตีให้เราติด Knockback ( กระเด็นถอยหลัง ) จนตกสนามประลองได้
ดังนั้นจึงควรวางแผนยึดธง หรือรุมกำจัดศัตรูไปทีละตัวอย่างรอบคอบ

นอกจากนั้น ยังจะมีระฆังตั้งอยู่ที่ข้างสนามประลองอีกด้วย
ซึ่งถ้ามีโปเกมอนไปโจมตีใส่ ก็จะเป็นการเพิ่มพลังโจมตีให้กับเหล่าโปเกมอนในกองทัพเดียวกัน




เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด แล้วทำการยึดธงทั้ง 4 มุมให้ครบ , ยึดครองธงทั้งหมดให้ได้นานติดต่อกัน 5 turn
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดติดต่อกันได้ 5 Turn , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :






หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว Yoshihiro จะยกเมือง Pugilis ให้กับเรา
ซึ่งผู้เล่นสามารถสุ่มพบเจอเขาได้ตามดันเจี้ยนหลังจากนี้
( หากสามารถจัดการโปเกมอนของ Yoshihiro ได้ภายใน 4 turn
โดยที่โปเกมอนของขุนศึกระดับบุคคลสำคัญนั้น ไม่ได้รับความเสียหายเลย
ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้าร่วมกองทัพของเราได้ในทันที )





ในขณะที่พวกตัวละครเอกกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น สมาชิกกลุ่มขุนศึกวัยเยาว์ก็ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง
พวกเขาได้พูดถึง 2 ยอดนักรบที่ครอบครองดินแดนใกล้เคียง

ซึ่งลือกันว่า แม้กระทั่ง Nobunaga เอง ก็ยังลังเลที่จะเข้าทำการโจมตี


เมื่อเล่าจบแล้ว สมาชิกกลุ่มขุนศึกวัยเยาว์ก็จะเดินทางจากไปตามเคย



หลังจากนี้ ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่า จะเข้าทำการโจมตีเมือง Illusio ของ Kenshin
หรือจะเข้าทำการโจมตีเมือง Terrera ของ Shingen


สำหรับการบุกโจมตีครั้งแรกนั้น ไม่ว่าผู้เล่นจะเลือกโจมตีฝั่งไหน ผลก็จะเหมือนกัน คือ
ทั้ง Kenshin และ Shingen จะบอกว่า ตัวละครเอกนั้นยังไม่คู่ควรที่จะรบกับเขา และจะไม่ยอมต่อสู้ด้วย




หลังจากที่พวกตัวละครเอกถอยทัพกลับมาด้วยความผิดหวังนั้น ทางฝั่งศัตรูก็ได้ยกทัพเข้ามาบุกอย่างกะทันหัน


ซึ่งถ้าเลือกที่จะโจมตีเมือง Illusio
Aya พี่สาวของ Kenshin จะเป็นผู้ที่ยกทัพมาทดสอบฝีมือของผู้เล่น



แต่ถ้าเลือกที่จะโจมตีเมือง Terrera
Shingen จะส่ง Yukimura มาทดสอบฝีมือของผู้เล่น




Ability test


เงื่อนไขในการผ่านฉากนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นเลือกที่จะโจมตีฝั่งไหน
ถ้าเป็นการรบเพื่อป้องกันเมืองจากกองทัพของ Aya ก็จะใช้กติกาของเมือง Chrysalia
แต่ถ้าเป็นการรบเพื่อป้องกันเมืองจากกองทัพของ Yukimura ก็จะใช้กติกาของเมือง Pugilis


ศัตรูภายในฉาก :

ฝั่ง Aya












ฝั่ง Yukimura



เมื่อสามารถเอาชนะได้แล้ว ทางฝั่งศัตรูก็จะยกทัพกลับไป
และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นกับตัวละครเอก


ซึ่งก็คือ การเลื่อนระดับเป็นขุนศึกขั้น 2 นั่นเอง


ในตอนนี้ เมื่อผู้เล่นกดสั่งโจมตีเมืองของทาง 2 ยอดฝีมืออีกครั้ง
ก็จะพบว่า ตัวละครเอกนั้นได้เป็นที่ยอมรับของพวกเขาแล้ว




Illusio


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะใช้กติกาการยึดธงเป็นหลัก ซึ่งถ้าฝ่ายไหนสามารถยึดธงได้ครบก่อน ก็จะชนะ
เป็นสนามรบลอยฟ้า ที่ต้องอาศัยแผ่นหินเคลื่อนที่ในการเดินทาง
ซึ่งจุดวาร์ปที่เป็นสีต่าง ๆ ภายในฉากนั้น จะสุ่มเปลี่ยนจุดไปเรื่อย ๆ เมื่อจบ Turn
เมื่อโปเกมอนได้เข้าไปแล้ว จะไปโผล่ในจุดที่ต่าง ๆ กันไป


เงื่อนไขการรบชนะ : ทำการยึดธงทั้ง 4 มุมให้ครบ
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดได้ก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :


















 


Terrera

จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีหอคอยสูง ๆ ตั้งอยู่ภายในฉากด้วยกันทั้งหมด 3 จุด ซึ่งแต่ละจุด จะมีธงปักอยู่บนส่วนยอด
ซึ่งโปเกมอนของแต่ละฝ่าย จะต้องยึดธงที่มีอยู่ภายในฉากให้ครบทั้งหมด จึงจะได้รับชัยชนะ
( การที่จะสามารถขึ้นไปยังส่วนยอดของหอคอยได้นั้น
จำเป็นที่จะต้องนำโปเกมอนไปเหยียบบนลิฟท์โบราณ )

โดยจะมีลูกเล่นเพิ่มเติม คือ พายุทรายที่จะคอยพัดให้เหล่าโปเกมอนตกลงมายังพื้นทรายด้านล่าง
( หากถูกพัดจนตกลงมา จะได้รับความเสียหายที่ค่อนข้างหนัก
แต่โปเกมอนจำพวกนก ที่บินได้ จะไม่ได้รับความเสียหายจากการถูกพัดตกลงมาแต่อย่างใด )


เงื่อนไขการรบชนะ : ทำการยึดธงบนยอดหอคอยให้ครบ
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดได้ก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :


*** หากใช้โปเกมอนของ Motochika และ Motonari
ก็จะสามารถจัดการกับ Rhyperior ที่มีพลังโจมตีอันหนักหน่วงได้อย่างง่ายดาย ***



เมื่อชนะแล้ว 2 ยอดขุนศึก ก็จะขอเข้าร่วมกับกองทัพเรา
เพื่อช่วยปลดปล่อย Ransei ให้พ้นจากอำนาจของ Nobunaga

( ตรงจุดนี้ ถ้าหากต่อสู้ชนะ Kenshin ก็จะได้ทั้ง Kenshin , Aya , Kanetsugu
และ Shingen มาเข้าร่วมกองทัพ แต่จะไม่ได้ Yukimura กับ Kunoichi

แต่ถ้าต่อสู้ชนะ Shingen ก็จะได้ทั้ง Shingen , Yukimura , Kunoichi
และ Kenshin มาเข้าร่วมกองทัพ โดยจะไม่มี Aya และ Kanetsugu อยู่ในนั้น
ซึ่งผู้เล่น สามารถออกตามหาขุนศึกระดับบุคคลสำคัญที่ขาดไป
ได้จากการสุ่มปรากฏตัวในดันเจี้ยน )



และในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเย็นกันอยู่นั้นเอง
Nobunaga ก็ได้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน พร้อมกับ Zekrom โปเกมอนในตำนาน
สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณ


แต่การปรากฏตัวของเขาครั้งนี้ เป็นเพียงแค่การมาแวะมาทักทายเหล่าศัตรู
และ Oichi ผู้เป็นน้องสาวเท่านั้น

ซึ่งเขาได้บอก ก่อนที่จะเดินทางจากไป ว่า
เขาจะรอพวกตัวละครเอก อยู่ที่เมือง Dragnor




ในตอนนี้จะมีเป้าหมายการโจมตีใหม่เพิ่มเข้ามา 4 เมือง
คือ Cragspur , Viperia , Yaksha และ Avia
ซึ่งเป็นเขตการปกครองที่อยู่ใต้สังกัดของ Nobunaga

โดยทางเมือง Avia นั้น ดูเหมือนว่าจะมีกำลังรบที่แข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ
ทำให้โอกาสที่ผู้เล่นจะชนะนั้นมีต่ำ
ผมจึงอยากแนะนำให้ไปตีเมือง Cragspur ที่ง่ายที่สุดในบรรดา 4 เมืองนี้ก่อน




Cragspur


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
เราจะตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ เนื่องจากได้เข้าสู่สนามรบที่ถูกฝ่ายศัตรูดัดแปลงมาเป็นอย่างดี
หินยักษ์ที่อยู่รอบ ๆ นั้น จะกลิ้งลงมาทับเป้าหมายที่อยู่ข้างล่างเสมอ
ไม่ว่าโปเกมอนฝ่ายไหนจะไปโจมตีใส่ก็ตาม
( ซึ่งพื้นที่ในสนามรบ จะบังคับให้เราต้องเดินขึ้นไปหาศัตรู )

ประตูหินที่ขังเราไว้ในตอนแรกนั้น
สามารถเปิดได้โดยการนำโปเกมอนไปเหยียบปุ่มกลไกที่อยู่ในห้อง
( โปเกมอนประเภทนก ที่บินได้ จะสามารถบินข้ามประตูหินไปได้ในทันที )


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :



หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Cragspur ได้ ส่วน Ujiyasu และ Kai นั้น จะหนีไป



ในขณะที่เหล่าตัวละครเอกกำลังจะเตรียมความพร้อมสำหรับการออกรบครั้งต่อไปอยู่นั้น
Keiji ก็ได้เดินทางผ่านมาเจอเข้าพอดี
ซึ่งคราวนี้ เขาได้นำของฝากอันล้ำค่ามาให้เราด้วย


เป็นไอเทมสำคัญ ที่ใช้สำหรับการวิวัฒนาการ Eevee
( วิธีการใช้ ให้กด A ตรงเมืองที่ตัวละครเอกอยู่ จากนั้นเลือก Equip
ซึ่ง Stone ทั้งสามแบบนั้น จะอยู่ในหมวดหมู่ไอเทมจิปาถะ ที่เป็นรูปเพชร
เมื่อให้ตัวละครเอกสวมใส่แล้ว ให้เข้าไปทำการต่อสู้
หลังจากที่ชนะ Eevee ก็จะทำการวิวัฒนาการ โดยจะเปลี่ยนธาตุไปตาม Stone ที่ผู้เล่นเลือกถือ )



สำหรับเป้าหมายต่อไปที่น่าสนใจนั้น จะมี Viperia และ Yaksha
ซึ่งทั้งสองเมืองนั้นต่างก็มีกำลังรบที่พอ ๆ กัน


ถ้าหากผู้เล่น เลือกที่จะโจมตีเมือง Viperia ก็จะได้พบเจอกับ Hideyoshi อีกครั้ง
ซึ่งคราวนี้เขาได้มาในมาดใหม่ ด้วยการอัพเกรดตัวเองเป็นขุนศึกขั้น 2



นอกจากนั้นยังมี Nene ภรรยาสุดสวยคอยตามมาคุ้มกันถึงสนามรบอีกด้วย





Viperia


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะใช้กติกาการยึดธง ฝ่ายไหนสามารถยึดได้ครบก่อนก็จะชนะ
โดยทางลับสไตล์นินจาที่อยู่บนพื้นนั้น ถ้าสั่งให้โปเกมอนกระโดดลงไป
ก็จะไปโผล่ที่อีกฟากหนึ่ง เป็นทางลับที่สามารถใช้งานเพื่อย่นระยะทางได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนั้นยังมียาพิษจำนวนมาก ที่ถูกฝ่ายศัตรูเททิ้งไว้ที่พื้น
ซึ่งถ้าไปเหยียบเข้าก็จะติดพิษ ทำให้สูญเสีย HP ไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ Turn

อีกจุดที่ต้องระวัง คือโปเกมอนของ Hideyoshi และ Hanzō นั้น เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมาก
จึงควรนำโปเกมอนหลาย ๆ ตัวไปดักรุมจัดการให้เร็วที่สุด
( ควรจะรุมจัดการให้ได้ใน Turn เดียว เพราะถ้าหาก HP ของโปเกมอนใกล้หมด
Hideyoshi / Hanzō จะใช้ Warrior Skill ช่วย ซึ่งอาจทำให้เราตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ )


เงื่อนไขการรบชนะ : ทำการยึดธงให้ครบทั้งหมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดได้ก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :





หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Viperia ได้ ส่วน Hideyoshi , Nene และ Hanzō นั้น จะหนีไป




แต่ถ้าผู้เล่น เลือกที่จะโจมตีเมือง Yaksha
ก็จะต้องเจอกับ Kotarō และกองทัพนินจาของเขา ที่มาพร้อมกับเหล่าโปเกมอนความมืด





Yaksha


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
เมื่อสู้ไปได้สักพัก ก็จะมีการสุ่มโปเกมอนที่จะได้รับแจ๊คพอต
ซึ่งถ้าหากสุ่มไปโดนโปเกมอนตัวไหน
โปเกมอนตัวนั้นก็จะถูกวาร์ปไปยังห้องลับ ที่เต็มไปด้วยกล่องสมบัติ
( หากโดนสุ่มไปยังห้องลับ ผู้เล่นสามารถใช้ทางลับที่เป็นพุ่มไม้ เพื่อหนีออกมาได้ )


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :




หลังจากที่ได้รับชัยชนะ เราจะสามารถยึดเมือง Yaksha ได้ ส่วน Kotarō นั้น จะหนีไป




ในตอนนี้ เป้าหมายการโจมตี ก็จะเหลือแค่ Avia เพียงเมืองเดียวแล้ว
ซึ่งขุนศึกผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้องรักษาหัวเมืองสำคัญแห่งนี้อยู่
ก็คือ Masamune ผู้ที่ถูกขนานนามว่า " มังกรตาเดียว "






Avia


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะเป็นการรบบนยอดเขาอันสูงชัน โปเกมอนที่บินไม่ได้นั้นจะค่อนข้างเสียเปรียบ
เนื่องจากต้องคอยอาศัยแท่นกระโดดช่วยในการเดินทางข้ามยอดเขา
ทำให้เข้าประชิดตัวฝ่ายศัตรูได้ลำบาก

อีกจุดที่ควรระวัง คือ การโจมตีของ Braviary โปเกมอนของ Masamune
ที่ทั้งหนักหน่วงรุนแรง และสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับโปเกมอนฝ่ายเราได้เป็นอย่างมาก
ผู้เล่นจึงควรนำโปเกมอนหลาย ๆ ตัว ไปดักรุมกำจัดให้ได้โดยไว

( ส่วน Carnivine ของ Magoichi นั้น เป็นโปเกมอนหญ้าก็จริง
แต่ด้วยการที่มี Ability ที่มีชื่อว่า Levitate ( ลอยตัว )
จึงเป็นเสมือนกับโปเกมอนที่บินได้ ดังนั้น การโจมตีใส่ด้วยธาตุดินจึงไร้ผล )


งื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :


หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราก็จะสามารถยึดเมือง Avia ได้ ส่วน Masamune และ Magoichi นั้น จะหนีไป



แต่จู่ ๆ สมุนเอกของ Nobunaga
ที่มีชื่อว่า Mitsuhide ก็ได้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
ณ เมือง Avia ที่พวกตัวละครเอกเพิ่งจะยึดมาได้


แต่การปรากฏตัวครั้งนี้ เป็นเพียงแค่การแวะมาทักทาย และพูดจาเย้ยหยันตัวละครเอกเท่านั้น
เมื่อได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูดแล้ว เขาจึงเดินทางกลับ


หลังจากนี้จะมีเป้าหมายในการโจมตีเพิ่มเข้ามาอีก 3 เมือง
ได้แก่ Valora , Spectra และ Nixtorm

ซึ่งการที่จะสามารถสั่งโจมตีเมือง Nixtorm ได้นั้น
ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องตีฝ่าเมือง Spectra หรือ Valora ไปให้ได้เสียก่อน



ถ้าหากผู้เล่นเลือกที่จะเข้าโจมตีเมือง Spectra
ก็จะต้องพอเจอกับ ภรรยาของ Nobunaga






Spectra


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีวิญญาณอาฆาตคอยวนเวียนอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในฉาก
ถ้าโปเกมอนฝ่ายไหนเผลอเดินเข้าไปใกล้ ก็จะถูกมันสิงร่าง ทำให้ติดสถานะผิดปกติต่าง ๆ ได้

นอกจากนั้นเสาหินผีสิงที่อยู่รอบ ๆ สุสาน จะสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้
ซึ่งในบางครั้ง เสาหินพวกนี้ก็จะเคลื่อนที่มาบังทางเดิน หรือท่าโจมตีระยะไกลของโปเกมอน
ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถโจมตีได้อย่างอิสระ และสะดวกเท่าที่ควรนัก

และนับว่าเป็นโชคดีของผู้เล่น ที่ Okuni นั้นไม่ได้มาพร้อมกับ Volcarona ที่แข็งแกร่ง
จึงเป็นเรื่องง่าย ที่จะปราบศัตรูทั้งหมดในฉากนี้ ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ Turn


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :

เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Spectra ได้ ส่วน และ Okuni นั้น จะหนีไป




ส่วนทางด้านของเมือง Valora นั้น จะมี Ieyasu คอยคุ้มครองอยู่
ซึ่งนอกจากเขาแล้ว ยังมี Tadakatsu และ Ina ที่มีความสามารถในด้านการรบที่สูง
บวกกับการที่มีสนามรบที่ถูกดัดแปลงมาอย่างดี
จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ผู้เล่นจะสามารถชนะในการรบในครั้งนี้ได้





Valora

จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
หากมีโปเกมอนของฝ่ายไหนเข้าไปเหยียบฟันเฟืองจักรกลขนาดยักษ์แล้วล่ะก็
มันจะทำการหมุน และสับเปลี่ยนสิ่งกีดขวางที่มีอยู่ภายในฉาก
ซึ่งโปเกมอน จะไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวางที่ว่านี้ไปได้
ดังนั้นหากต้องการเข้าประชิดตัวศัตรู ผู้เล่นก็จำเป็นที่จะต้องวางแผน และสั่งการโปเกมอนให้เป็นระบบ

นอกจากนั้นแล้ว พวกเครื่องจักรกลดักขโมย ที่เคลื่อนที่ไปมาบนพื้นเหล็กนั้น
จะทำการดักจับโปเกมอนทุกตัว ที่เข้ามาใกล้รัศมีการตรวจจับของมัน
ซึ่งโปเกมอนที่ถูกมันจับได้ จะถูกนำไปวางทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในฉากแบบสุ่ม

สิ่งที่ควรระวังมากที่สุด คือ Metagross ของ Tadakatsu นั้นแข็งแกร่ง และโจมตีได้หนักหน่วงมาก
ปกติแล้ว Metagross นั้นจะเดินได้ใกล้ จึงมักจะถูกโปเกมอนที่โจมตีจากระยะไกลปราบเอาได้ง่าย ๆ
แต่ด้วยการที่มันอยู่ในสนามรบที่แคบเอามาก ๆ
จึงเหมือนกับว่าตัวเกมนั้นบังคับให้โปเกมอนของผู้เล่นยืนแลกกับ Metagross ในระยะประชิด
ซึ่งนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก
ถ้าไม่ได้ใช้การโจมตีในแบบ Super Effective ( ชนะทาง ) เข้าช่วย


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :


เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Valora ได้ ส่วน Ieyasu , Tadakatsu และ Ina นั้น จะหนีไป




ในตอนนี้ เป้าหมายในการโจมตีก็จะเหลือเพียง Nixtorm แค่เมืองเดียวแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่า เป็นกองทัพของ Mitsuhide ที่คอยปกป้องดินแดนแห่งนี้อยู่






Nixtorm

จุดเด่นของการรบครั้งนี้ คือ
จะมีธารน้ำแข็งกั้นระหว่างพื้นที่ของฝั่งเราและฝั่งศัตรู
ซึ่งถ้าโปเกมอนทั่วไป ได้เดินไปเหยียบพื้นน้ำแข็งนี้
ก็จะลื่นไถลเป็นแนวเส้นตรงไปจนสุดทาง หรือจนกว่าจะชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง / โปเกมอนตัวอื่น ๆ
ในขณะที่โปเกมอนหลาย ๆ ตัวของฝั่งศัตรูนั้น สามารถเดินบนน้ำแข็งได้โดยที่ไม่ลื่นไถล

ส่วนแผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนน้ำนั้น เมื่อไปเหยียบเข้า
ก็จะลอยไปตามน้ำ และจะหยุด เมื่อลอยไปจุนสุดทาง

นอกจากนั้น ถ้าหากโปเกมอนยืนอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เปราะบางนานเกินไป ก็จะทำให้พื้นน้ำแข็งนั้นแตก
( พื้นน้ำแข็งที่แตกไปแล้ว จะนับเป็นพื้นที่ ที่มีน้ำ ซึ่งโปเกมอนทั่ว ๆ ไป จะไม่สามารถเดินผ่านได้ )

จุดที่ควรระวัง คือ Musharna โปเกมอนของ Gracia
ซึ่งมี Ability ที่สามารถทำให้ศัตรูที่อยู่ใกล้ติดสถานะ " หลับ " ได้
และหลังจากที่หลับไปแล้ว ก็จะถูก Musharna โจมตีด้วยท่ากินฝัน ( Dream Eater )
( การติดสถานะหลับ จะทำให้โปเกมอนของเราเสีย Turn ไปฟรี ๆ และอาจตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้
ดังนั้นจึงควรนำโปเกมอนไปรุมจัดการ Musharna ก่อนเป็นตัวแรก )



เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :



เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราก็จะสามารถยึดเมือง Nixtorm ได้ ส่วน Mitsuhide แล Gracia นั้น จะหนีไป





หลังจากนั้น เป้าหมายการโจมตีสุดท้าย ก็คือเมือง Dragnor ของ Nobunaga จะปรากฏออกมา
( ตรงจุดนี้ ผู้เล่นสามารถออกไปรวบรวมไอเทม , เก็บค่า Link , วิวัฒนาการโปเกมอน ฯลฯ ได้อย่างอิสระ
ซึ่งควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อม เพราะกองทัพของ Nobunaga นั้น แข็งแกร่งมาก )






Dragnor


จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
เป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยเสาพลังงาน ที่จะยิงพลังงานเข้าใส่โปเกมอนทุกตัวที่เดินผ่าน
ซึ่งรูปแบบของโจมตีของเสา จะเปลี่ยนไปตามสีของเสานั้น ๆ
เช่น เสาสีเหลืองจะยิงสายฟ้าเข้าใส่ ส่งผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการชา ไม่สามารถขยับตัวได้ในบาง Turn
( เสาไร้สี จะทำการเพิ่ม HP ให้กับโปเกมอน ซึ่งจะต่างจากเสาอื่น ๆ ที่ยิงพลังงานเข้าโจมตี )

สิ่งที่ควรระวังมากที่สุด คือ Zekrom โปเกมอนในตำนานของ Nobunaga ที่โจมตีได้หนักหน่วงรุนแรง
นอกจากนั้นยังมี Ability ที่มีชื่อว่า Teravolt ซึ่งจะส่งผลทำให้โปเกมอนฝั่งเรา ที่โดน Zekrom โจมตีใส่
ไม่สามารถใช้ Ability ใด ๆ เพื่อทำการหลบหลีก , ป้องกัน หรือลดความเสียหายได้เลย

ดังนั้น ผู้เล่นจึงควรเลือกโปเกมอนที่ได้เปรียบในการต่อสู้กับ Zekrom มาทำการรบ
และควรที่จะรุมกำจัด Zekrom ให้ได้ภายใน Turn เดียว ถ้าหากสามารถเข้าประชิดตัวได้

เพราะถ้า HP ของ Zekrom ลดลงไปมาก ๆ Nobunaga จะใช้ Warrior Skill เข้าช่วย
ทำให้ Zekrom สามารถโจมตีได้ 2 ครั้ง ใน Turn เดียว
และยังสามารถทำให้โปเกมอนศัตรูติดสถานะสะดุ้ง ( Flinch ) ได้อีกด้วย
( โปเกมอนที่ติดสถานะสะดุ้ง จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย เป็นเวลา 1 Turn )
ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ

ศัตรูภายในฉาก :



เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว Nobunaga จะยกเมือง Dragnor ให้กับเรา
ซึ่งเขาได้หัวเราะออกมาอย่างน่าประหลาด ก่อนที่จะเดินจากไป


ในช่วงค่ำ เหล่าขุนศึกทั้งหลายต่างก็มาแสดงความยินดีกับตัวละครเอก
ที่สามารถปลดปล่อย Ransei ให้พ้นจากอำนาจของ Nobunaga ได้สำเร็จ

แต่ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเอง
ก็ได้มีลำแสงจำนวนมาก พวยพุ่งออกมาจากผลึกที่อยู่บนส่วนยอดของทุกปราสาท ใน Ransei
ก่อนที่จะมาบรรจบ และรวมกันเป็นหนึ่งเดียว


แล้วพุ่งเข้าใส่หอคอยลึกลับ ที่ตั้งอยู่ภายในเมือง Dragnor



ในตอนนี้ ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่า
จะเข้าสู่ Infinite Tower ที่อยู่ภายในเมือง Dragnor ในทันที
หรือจะไปเตรียมความพร้อม ด้วยการเก็บค่า Link , วิวัฒนาการโปเกมอน ฯลฯ ก่อน

เมื่อผู้เล่นพร้อมแล้ว ให้เข้าไปในเมือง Dragnor
จะพบว่ามี Infinite Tower ตั้งอยู่ ก็ให้กดเข้าไปได้เลย
ซึ่งจะสถานที่แห่งนี้ จะเป็นสนามรบสุดท้ายของเนื้อเรื่องหลักในเกม




Infinite Tower


ทันทีที่มาถึงยังส่วนยอดของหอคอย ก็จะพบกับโปเกมอนลึกลับ ที่บอกกับตัวละครเอกว่า
" ให้ทำการ Link กับเขา และจงแสดงพลังที่มีอยู่ ให้เขาประจักษ์ "



เงื่อนไขการรบชนะ : ใช้ตัวละครเอก ทำการ Link กับ Arceus ได้สำเร็จ
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูก Arceus กำจัดทั้งหมด ( จะถือว่าเป็น Game Over ทันที )

ศัตรูภายในฉาก :


*** ผู้เล่นนั้นไม่สามารถที่จะเอาชนะ Arceus ในการต่อสู้ครั้งนี้ได้
เพราะตัวเกมได้บังคับให้ผู้เล่นใช้ตัวละครเอกทำการ Link กับ Arceus ***



เมื่อตัวละครเอกได้ทำการ Link กับ Arceus สำเร็จแล้ว
Nobunaga ก็จะปรากฏตัวพร้อมกับ Rayquaza โปเกมอนในตำนาน


และการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ก็ได้เริ่มต้นขึ้น





Final Battle


เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด ( จะถือว่าเป็น Game Over ทันที )

ศัตรูภายในฉาก : 


หลักจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว
Nobunaga ก็จะอธิบายเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา ให้ Oichi และตัวละครเอกฟัง

ส่วนทางด้าน Arceus นั้น ก็จะบอกว่า ตัวละครเอกนั้นยังเยาว์วัยเกินไป
และต่อจากนี้ ตัวละครเอกจะไม่ได้พบเห็นเขาอีก
จนกว่าจะถึงวันที่ตัวละครเอกนั้นแข็งแกร่งมากพอ

ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...


หลังจากนั้น ตัวละครเอก ก็ได้คืนดินแดนต่าง ๆ ที่ได้ยึดครองไปก่อนหน้านี้ให้กับผู้ที่เคยปกครอง
และ Ransei ได้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง






หลังจากที่ได้รับชมฉากจบแล้ว ให้ผู้เล่นทำการ Save
แล้วหลังจากนั้นจะเป็นการกลับเข้าสู่หน้าจอหลักอีกครั้ง
ให้ผู้เล่นเลือกเล่นต่อจาก Save เมื่อสักครู่
ก็จะมีเนื้อเรื่องพิเศษของบุคคลสำคัญต่าง ๆ มาให้เลือกเล่นเพิ่มเติม

โดยจะมีความลับต่าง ๆ มากมาย ที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปค้นหาอยู่





______________________________________________________



1 ความคิดเห็น:

  1. 22.42

    ตอนนี้แก้ไขความถูกต้องของข้อมูล Monferno แล้วนะครับ
    ( ตอนจัดทำรีบไปหน่อย เพราะเวลามีจำกัด จึงทำให้ใส่ข้อมูลผิด )

    ตอบลบ