ตัวเอกที่เป็นขุนศึกหน้าใหม่ ได้ถูกเรียกเข้ามาประจำการในเมือง Aurora
แต่ยังไม่ทันที่จะทันได้ทำอะไร ก็ต้องพบเจอกับการลอบบุกโจมตีของเหล่าลูกสมุนจากเมืองใกล้เคียง
First Battle
ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการควบคุมตัวละครขั้นพื้นฐานให้ผู้เล่นได้รู้
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด ( จริง ๆ แล้วเป็นไปไม่ได้ เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ตัวเกมจะกำหนดให้เราชนะ )
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่รบชนะแล้ว Koroku และ Nagayasu จะหนีกลับไปที่เมือง Ignis
หญิงสาวลึกลับ ที่ปรากฏตัวออกมาช่วยเราไว้เมื่อสักครู่นี้ จะแนะนำตนเองว่าเธอชื่อ Oichi และจะขอร่วมเดินทางไปกับเราด้วย
ซึ่งตรงจุดนี้ ไม่ว่าจะตอบปฏิเสธไปสักกี่ครั้ง ผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิม
คือไม่ว่าจะยังไงเธอก็จะขอเดินทางไปกับเราให้ได้
หลังจากนั้น เธอจะแนะนำให้เราเข้าไปสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมือง Aurora ( สามารถทำได้โดยการกด A ที่เมือง แล้วเลือก Enter )
จะพบว่ามี Farm ซึ่งเป็นคล้าย ๆ ดันเจี้ยนสำหรับใช้เก็บค่า Link
โดยภารกิจครั้งนี้คือการเข้าไปฝึกฝนใน Farm
Farm
ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการความรู้ขั้นพื้นฐานของความสามารถพิเศษ ( Ability ) ที่โปเกมอนมี ให้ผู้เล่นได้รู้
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ชนะแล้ว เราจำเป็นที่จะต้องกดผ่านไปยังเดือนถัดไป เนื่องจากได้ใช้งานขุนศึกที่มีอยู่จนครบหมดทุกคนแล้ว
ซึ่งหลังจากที่ได้กดผ่านไปยังเดือนถัดไปแล้ว จะมี Cutscene สั้น ๆ
เกี่ยวกับการระเบิดอารมณ์ของ Hideyoshi หลังจากที่รู้ผลการรบของพวก Koroku
ให้กดเข้ามาสำรวจภายในเมือง Aurora อีกครั้ง จะพบว่ามีดันเจี้ยนใหม่เพิ่มเข้ามา คือ Ravine
Ravine
ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับวิธีการใช้ความสามารถพิเศษของขุนศึก ( Warrior Skill ) เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนโปเกมอน ให้ผู้เล่นได้รู้
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
โดยหลังจากที่ชนะและกดข้ามไปยังเดือนถัดไปแล้ว เราสามารถที่จะเลือกได้ว่า จะบุกเข้าโจมตีเมือง Ignis ของ Hideyoshi เลย หรือจะอยู่เก็บค่า Link ในดันเจี้ยนต่อ
ซึ่งถ้าหากเลือกที่จะบุกเข้าโจมตีเมือง Ignis ก็จะต้องมาสู้ในสนามรบที่เต็มไปด้วยธารลาวา และเปลวเพลิง
Ignis
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
โปเกมอนธาตุไฟของฝ่าย Hideyoshi จะสามารถเดินผ่านธารลาวาได้ ( ในขณะที่ฝั่งเราทำไม่ได้ )
โดย Chimchar โปเกมอนของ Hideyoshi นั้น จะสามารถเคลื่อนที่ได้ในระยะทางที่ไกลมาก ๆ
และเมื่อสู้ไปได้สักพัก ก็จะมีเศษหินอัคนีจากปากปล่องภูเขาไฟ สุ่มตกลงมาสร้างความเสียหายให้กับโปเกมอนอีกด้วย
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่สามารถเอาชนะได้แล้ว เราจะยึดเมือง Ignis ได้ ส่วน Hideyoshi และเหล่าลูกสมุนจะหนีไป
ในขณะที่พวกตัวเอกกำลังยินดีกับการที่ได้รับชัยชนะ ก็ได้มีชายหนุ่มท่าทางประหลาด ชื่อ Keiji เข้ามาบอกว่า
พวกตัวเอกนั้น จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ และได้ชักชวนให้เข้าไปพบที่ในเมือง Ignis
ซึ่งหลังจากที่ได้เข้ามาในเมืองแล้ว เขาจะอธิบายว่า ยังมีขุนศึกอีกมากมายใน Ransei ที่ไม่ได้เข้าร่วมสังกัดกองทัพใด ๆ
ซึ่งอาจพบเจอกับพวกเขาได้ในบางสถานที่ อย่างเช่น ถ้ำ
หลังจากแนะนำเสร็จ เขาจะเดินทางจากไป ส่วน Oichi นั้น ก็จะชวนให้ตัวเอกเดินทางเข้าไปสำรวจในถ้ำ
Cave
ฉากนี้จะเป็นการอธิบายเกี่ยวกับเงื่อนไขในการที่จะได้ขุนพลฝ่ายศัตรูมาเข้าร่วมกองทัพ ให้ผู้เล่นได้รู้
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่สามารถเอาชนะเขาได้ภายใน 4 Turn แล้ว ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อม ( Recruit ) ให้เขามาเข้าร่วมกองทัพของเราได้
และเมื่อทำการกดข้ามเดือนแล้ว เราสามารถที่จะเลือกได้ว่า จะทำการโจมตีเมือง Greenleaf , Fontaine หรือจะเข้าไปทำการเก็บค่า Link ในถ้ำต่อ
( ซึ่งตรงจุดนี้ ผมอยากจะแนะนำให้กลับเข้ามาลุยถ้ำอีกครั้ง เพราะจะมีขุนศึกที่สามารถช่วยให้เราได้เปรียบการรบกับเมือง Greenleaf รออยู่ด้านใน )
โดย Darumaka นั้น จะเป็นโปเกมอนที่โจมตีได้รุนแรงมากในช่วงแรก ๆ เนื่องจากมี Ability อย่าง Run Up
ที่จะช่วยเพิ่มความเสียหายให้มากขึ้นตามระยะทางที่ได้เดินไป ก่อนที่จะทำการโจมตีศัตรู
( ยิ่งวิ่งมาโจมตีจากระยะไกล ศัตรูก็จะยิ่งเจ็บหนัก เป็นอีกหนึ่ง Ability ที่ดีที่สุดในเกม )
สนามรบต่อไป ที่อยากจะแนะนำให้เข้าทำการโจมตี ก็คือ Greenleaf เพราะขุนศึกที่นี่ จะใช้แต่โปเกมอนหญ้า ซึ่งแพ้ทางโปเกมอนไฟเป็นอย่างมาก
( ตรงจุดนี้ ผู้เล่นอาจเลือกที่จะข้ามไปสู้กับทาง Fontaine เลยก็ได้ แต่โอกาสชนะจะมีต่ำมาก )
และถ้าหากเลือกที่จะเข้ามาทำการรบกับเมือง Greenleaf แล้ว ก็จะต้องพบเจอกับทางวงกต ที่เต็มไปด้วยกับดัก และลูกเล่นใหม่ ๆ มากมาย
Greenleaf
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีกติกาใหม่ คือต้องยึดธงที่มีอยู่ให้หมด จึงจะเป็นฝ่ายชนะ
และภายในฉาก จะเต็มไปด้วยหลุมกับดัก ที่ถ้าหากตกลงไปแล้ว จะไม่สามารถทำอะไรได้เลยเป็นเวลา 1 Turn
นอกจากนั้น ภายในฉากยังมีสะพานเถาวัลย์ ที่คอยช่วยให้พวกศัตรูเข้ามายึดธงได้เร็วขึ้นอีกด้วย
( การใช้ทางลับที่เป็นจุดพุ่มไม้สีเขียว จะช่วยให้เราเข้าถึงบริเวณที่ธงปักอยู่ได้เร็วขึ้น )
เงื่อนไขการรบชนะ : ยึดธงที่มีให้ครบหมดทุกธง
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูสามารถยึดธงได้ครบก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดจนหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลักจากที่ได้รับชัยชนะ Motonari จะยกเมือง Greenleaf ให้เรา และขอเลือกที่จะเดินทางจากไปอย่างเงียบ ๆ
** ผู้เล่นควรที่จะกำจัดศัตรูทั้งหมดก่อนที่จะเข้าไปยึดธงให้ครบ เนื่องจากจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ลูกน้องของ Motonari ให้มาเข้าร่วมกองทัพได้
ซึ่งพวกเขาจะใช้โปเกมอนหญ้า ทำให้เราได้เปรียบในการเข้าโจมตีเมือง Fontaine **
สนามรบถัดไปคือเมือง Fontaine ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำใสสะอาด ขุนศึกที่นี่จึงใช้โปเกมอนน้ำในการรบ
Fontaine
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
มีการวางระบบชลประทานไว้เพื่อขวางการเดินทัพของศัตรู ซึ่งถ้าเราไม่นำโปเกมอนไปกดปุ่มให้กลไกทำงาน ก็จะเดินผ่านทางน้ำไปไม่ได้
ในขณะที่โปเกมอนน้ำฝั่งศัตรูนั้น สามารถเคลื่อนที่ในบริเวณที่มีน้ำได้อย่างอิสระ
ส่วนน้ำพุทางด้านซ้ายนั้น จะทำการยิงน้ำแรงอัดสูงใส่โปเกมอนที่เดินผ่าน ซึ่งนับได้ว่ารุนแรงพอสมควร สำหรับโปเกมอนที่มีค่า Defense น้อย
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ชนะแล้ว เราจะสามารถยึดครองเมือง Fontaine ได้ ส่วน Motochika นั้นจะพูดทิ้งท้ายเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินทางจากไป
ในช่วงค่ำ Oichi จะพูดคุยและปรึกษากับตัวละครเอก ซึ่งเธอจะพูดถึงขุนศึกผู้หนึ่ง
ที่มีชื่อว่า Nobunaga ซึ่งเป็นผู้ที่ทำการยึดครองดินแดนด้วยวิธีที่เหี้ยมโหดอำมหิต
Oichi จึงต้องการที่จะให้ตัวละครเอกช่วยหยุดความทะเยอทะยานอันบ้าคลั่งของเขา
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีความสูญเสียจากการศึกสงครามเกิดขึ้นอีก
หลังจากนี้ จะมีเป้าหมายในการยึดครองเพิ่มเข้ามาอีก 3 เมือง คือ Violight , Chrysalia และ Pugilis
( ซึ่ง Pugilis นั้น เรียกได้ว่าแข็งแกร่งจนเกินกว่าที่จะสามารถเอาชนะได้ในตอนนี้
ดังนั้นผมจึงอยากแนะนำให้ไปโจมตีเมือง Violight ก่อน )
Violight
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีกลไกสำหรับปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงอยู่ที่พื้น ซึ่งถ้าไปเหยียบเข้า ก็จะเป็นการส่งกระแสไฟฟ้าไปโจมตีที่ฟากตรงข้าม
นอกจากนั้น เมื่อสู้ไปได้สักพัก จะมีกระแสไฟฟ้าสุ่มพุ่งลงมาโจมตีโปเกมอนจากด้านบนอีกด้วย
( โปเกมอนสายฟ้าของฝั่งศัตรู จะสามารถเคลื่อนที่ผ่านบริเวณที่มีกระแสไฟฟ้าแรงสูงได้อย่างอิสระ )
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Violight ได้
ส่วน Ginchiyo และ Muneshige นั้นจะหนีไป ซึ่งจะสามารถสุ่มพบเจอเธอ / เขา ได้ตามดันเจี้ยนต่าง ๆ หลังจากนี้
( ถ้าหากสามารถจัดการโปเกมอนของ Ginchiyo หรือ Muneshige ได้ภายใน 4 turn
โดยที่โปเกมอนของตัวละครเอก / Oichi นั้นไม่ได้รับความเสียหายเลย
ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เข้าร่วมกองทัพของเราได้ทันที
โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาไปรอให้เธอ / เขา ปรากฏตัวในดันเจี้ยน )
เมื่อเลือกเมืองที่จะให้ขุนศึกที่เกลี้ยกล่อมมา เข้าไปประจำการได้แล้ว
ก็จะมี Cutscene การแนะนำเกี่ยวกับฟังก์ชั่นการมอบอำนาจ ( Delegate ) ของสมาชิกกลุ่มขุนศึกวัยเยาว์
ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ จะเป็นคล้าย ๆ กับการมอบหมายให้ขุนศึกที่อยู่ในเมืองอื่น นอกเหนือจากเมืองที่ตัวเอกประจำการอยู่
ทำการใส่ออฟชั่นเสริมเข้าไปในเมือง ซึ่งจะมีผลเพิ่มเติมจากค่าเดิมเล็กน้อย
ก็จะมี Cutscene การแนะนำเกี่ยวกับฟังก์ชั่นการมอบอำนาจ ( Delegate ) ของสมาชิกกลุ่มขุนศึกวัยเยาว์
ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ จะเป็นคล้าย ๆ กับการมอบหมายให้ขุนศึกที่อยู่ในเมืองอื่น นอกเหนือจากเมืองที่ตัวเอกประจำการอยู่
ทำการใส่ออฟชั่นเสริมเข้าไปในเมือง ซึ่งจะมีผลเพิ่มเติมจากค่าเดิมเล็กน้อย
** Train จะส่งผลทำให้ค่า Link เพิ่มไวขึ้น , Search จะทำให้ขุนศึกระดับบุคคลสำคัญ หรือโปเกมอนหายาก ปรากฏตัวในดันเจี้ยนง่ายขึ้น
ส่วน Develop นั้น จะส่งผลเกี่ยวกับค่า Energy ของโปเกมอน และทองที่ได้รับ **
หลังจากที่กลุ่มสมาชิกขุนศึกวัยเยาว์เดินทางจากไปแล้ว ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะกดข้ามไปยังเดือนถัดไปได้ทันที
ซึ่งเมื่อขึ้นเดือนใหม่ Keiji จะปรากฏตัวมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เล่นอีกครั้ง
โดยในตอนนี้ เราสามารถที่จะใช้ฟังก์ชั่น Password ที่เป็นฟังก์ชั่นสำคัญในเกมได้แล้ว
( กด Start แล้วเลือก Password )
ซึ่งเมื่อขึ้นเดือนใหม่ Keiji จะปรากฏตัวมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เล่นอีกครั้ง
โดยในตอนนี้ เราสามารถที่จะใช้ฟังก์ชั่น Password ที่เป็นฟังก์ชั่นสำคัญในเกมได้แล้ว
( กด Start แล้วเลือก Password )
ซึ่งให้ทำการใส่ Password ลงไปว่า J2TRZXPUm3 ตามที่ท่านเห็นในภาพด้านบน
เพื่อทำการปลดล็อค Event ลับ
ในตอนนี้สิ่งที่น่าปฏิบัติ คือการนำทัพของตัวละครเอกไปฝึกฝน เพื่อเพิ่มค่า Link
และใช้คำสั่ง March นำเหล่าขุนศึกที่มีค่า Strength สูง ๆ ไปรวมกันไว้ที่เมือง Greenleaf เพื่อทำการขุดแร่หาทอง
( River of Gold ในเมือง Fontaine นั้น ต้องเล่นจบเกมไปก่อน 1 รอบ จึงจะสามารถเปิดใช้งานได้ )
หลังจากที่ได้กดข้ามเดือนแล้ว Event จาก Password ที่ได้ใส่ไปในเดือนก่อนก็จะทำงาน
ซึ่งเป็น Password ที่มีไว้สำหรับปลดล็อค Event ลับของ Motochika และ Motonari
ในตอนนี้สิ่งที่น่าปฏิบัติ คือการนำทัพของตัวละครเอกไปฝึกฝน เพื่อเพิ่มค่า Link
และใช้คำสั่ง March นำเหล่าขุนศึกที่มีค่า Strength สูง ๆ ไปรวมกันไว้ที่เมือง Greenleaf เพื่อทำการขุดแร่หาทอง
( River of Gold ในเมือง Fontaine นั้น ต้องเล่นจบเกมไปก่อน 1 รอบ จึงจะสามารถเปิดใช้งานได้ )
หลังจากที่ได้กดข้ามเดือนแล้ว Event จาก Password ที่ได้ใส่ไปในเดือนก่อนก็จะทำงาน
ซึ่งเป็น Password ที่มีไว้สำหรับปลดล็อค Event ลับของ Motochika และ Motonari
ซึ่งจะทำให้เราได้พวกเขามาเข้าร่วมกองทัพ
( ทั้งสองคนนี้แกร่งมาก ชนิดที่ว่า สามารถใช้เล่นในทัพหลักจนจบเกมเลยก็ยังได้ )
( ทั้งสองคนนี้แกร่งมาก ชนิดที่ว่า สามารถใช้เล่นในทัพหลักจนจบเกมเลยก็ยังได้ )
นอกจากนั้น ฟังก์ชั่นการ Link กับโปเกมอนป่า ก็ได้ถูกเปิดใช้งานแล้วด้วยเช่นกัน
( การทำ Link กับโปเกมอนป่าในภาคนี้ จะเปรียบเสมือนกับการจับโปเกมอนในภาคก่อน ๆ )
โดยเราจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่น Link ได้เฉพาะกาารต่อสู้ในดันเจี้ยนเท่านั้น
ซึ่งจะมีเพิ่มเข้ามาถัดจากคำสั่ง Fight และ Wait ในฉากต่อสู้
โดยตัวเกมจะแบ่งระดับความเข้ากันได้ ระหว่างขุนศึกและโปเกมอนไว้ 3 ระดับด้วยกัน คือ
Silver หมายถึง เข้ากันได้ดี
โปเกมอนจะสามารถเข้ากับขุนศึกได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าขุนศึกคนนั้น ๆ ถนัดการใช้โปเกมอนรูปแบบไหน
โดยผู้เล่นสามารถตรวจสอบรูปแบบของโปเกมอนที่ขุนศึกถนัดใช้ได้
ด้วยการกดดูที่ Info แล้วกดปุ่ม L
จะมีหน้าจอพิเศษสำหรับการทำ Link ขึ้นมาแบบนี้
ซึ่งถ้ากดถูกจังหวะ เกจ Link ก็จะเพิ่ม
แต่ถ้ากดรัว ๆ มั่ว ๆ ในตอนที่กระแสจิตยังวิ่งมาไม่ถึง เกจ Link ก็จะลดลงทุกครั้ง
ซึ่งเมื่อเกจ Link เต็ม การ Link ก็จะเสร็จสมบูรณ์ และขุนศึกจะได้รับโปเกมอนป่าตัวนั้นมาใช้งาน
( หากไม่สามารถกดให้ค่า Link เต็มภายในการทำ Link ครั้งแรกได้
ผู้เล่นสามารถทำ Link กับโปเกมอนตัวเดิมซ้ำได้ใน Turn ถัดไป
โดยที่เกจ Link จะยังคงมีมากเท่าเดิม )
( การทำ Link กับโปเกมอนป่าในภาคนี้ จะเปรียบเสมือนกับการจับโปเกมอนในภาคก่อน ๆ )
โดยเราจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่น Link ได้เฉพาะกาารต่อสู้ในดันเจี้ยนเท่านั้น
ซึ่งจะมีเพิ่มเข้ามาถัดจากคำสั่ง Fight และ Wait ในฉากต่อสู้
โดยตัวเกมจะแบ่งระดับความเข้ากันได้ ระหว่างขุนศึกและโปเกมอนไว้ 3 ระดับด้วยกัน คือ
Silver หมายถึง เข้ากันได้ดี
โดยผู้เล่นสามารถตรวจสอบรูปแบบของโปเกมอนที่ขุนศึกถนัดใช้ได้
ด้วยการกดดูที่ Info แล้วกดปุ่ม L
สำหรับการทำ Link นั้น ให้ผู้เล่นนำโปเกมอนของขุนศึกที่ต้องการจะให้ทำ Link เข้าไปประชิดตัวโปเกมอนป่า
จะมีหน้าจอพิเศษสำหรับการทำ Link ขึ้นมาแบบนี้
โดยผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องกด A ในตอนที่กระแสจิตของโปเกมอน ( ลูกพลังงานกลม ๆ สีเหลือง ๆ )
วิ่งจากทางซ้ายมือ มาที่เขตวงกลมที่มีเส้นประอยู่รอบ ๆ ตัวอักษร A ทางด้านขวามือ ซึ่งถ้ากดถูกจังหวะ เกจ Link ก็จะเพิ่ม
แต่ถ้ากดรัว ๆ มั่ว ๆ ในตอนที่กระแสจิตยังวิ่งมาไม่ถึง เกจ Link ก็จะลดลงทุกครั้ง
ซึ่งเมื่อเกจ Link เต็ม การ Link ก็จะเสร็จสมบูรณ์ และขุนศึกจะได้รับโปเกมอนป่าตัวนั้นมาใช้งาน
( หากไม่สามารถกดให้ค่า Link เต็มภายในการทำ Link ครั้งแรกได้
ผู้เล่นสามารถทำ Link กับโปเกมอนตัวเดิมซ้ำได้ใน Turn ถัดไป
โดยที่เกจ Link จะยังคงมีมากเท่าเดิม )
หากท่านได้เตรียมตัวพร้อมแล้ว สนามรบถัดไปที่อยากจะแนะนำ ก็คือ Chrysalia
Chrysalia
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมี Pokémari ขนาดยักษ์ วางอยู่กระจัดกระจายตามพื้น
( มีที่มาจาก Pokémon รวมกันกับคำว่า Temari ที่เป็นชื่อของลูกบอลโบราณของชาวญี่ปุ่น )
ซึ่ง Pokémari ที่ว่านี้ ผู้เล่น และฝั่งศัตรูสามารถเข้าไปโจมตีใส่ได้
เมื่อถูกโจมตี จะกระเด็นไปตามทิศทางนั้นเป็นเส้นตรงจนสุดขอบจอ โปเกมอนที่ยืนขวางทาง จะถูก Pokémari ทับ
นอกจากนั้นแล้ว ยังจะมีรั้วกับดัก ที่ถ้าโดนเข้าไป จะถูกขังเอาไว้ในนั้นเป็นเวลาค่อนข้างนาน ( ฝั่งศัตรูก็สามารถถูกรั้วขังได้เช่นเดียวกัน )
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Chrysalia ได้
ส่วน Yoshimoto นั้นจะหนีไป ซึ่งผู้เล่นสามารถสุ่มพบเจอเขาได้ตามดันเจี้ยนหลังจากนี้
( หากสามารถจัดการโปเกมอนของ Yoshimoto ได้ภายใน 4 turn
โดยที่โปเกมอนของขุนศึกระดับบุคคลสำคัญนั้น ไม่ได้รับความเสียหายเลย
ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้าร่วมกองทัพของเราได้ในทันที )
และเป้าหมายการโจมตีสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงเมือง Pugilis
ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ผู้เล่นก็จะพบว่า
ความสามารถโดยรวมของกองทัพในตอนนี้ สามารถที่จะต่อกรกับพวกเขาได้อย่างสบาย ๆ แล้ว
Pugilis
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะใช้กติกาเฉพาะ ซึ่งแต่ละฝ่ายนั้น
จำเป็นที่จะต้องยึดธงทั้ง 4 มุม ไว้ให้ได้นานติดต่อกัน 5 Turn จึงจะเป็นฝ่ายชนะการรบ
( หรือจะกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้หมด แล้วค่อยไปยึดธงให้ครบ ก็จะชนะได้เช่นเดียวกัน )
โดยโปเกมอนฝ่ายศัตรู จะสามารถโจมตีให้เราติด Knockback ( กระเด็นถอยหลัง ) จนตกสนามประลองได้
ดังนั้นจึงควรวางแผนยึดธง หรือรุมกำจัดศัตรูไปทีละตัวอย่างรอบคอบ
นอกจากนั้น ยังจะมีระฆังตั้งอยู่ที่ข้างสนามประลองอีกด้วย
ซึ่งถ้ามีโปเกมอนไปโจมตีใส่ ก็จะเป็นการเพิ่มพลังโจมตีให้กับเหล่าโปเกมอนในกองทัพเดียวกัน
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด แล้วทำการยึดธงทั้ง 4 มุมให้ครบ , ยึดครองธงทั้งหมดให้ได้นานติดต่อกัน 5 turn
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดติดต่อกันได้ 5 Turn , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว Yoshihiro จะยกเมือง Pugilis ให้กับเรา
ซึ่งผู้เล่นสามารถสุ่มพบเจอเขาได้ตามดันเจี้ยนหลังจากนี้
( หากสามารถจัดการโปเกมอนของ Yoshihiro ได้ภายใน 4 turn
โดยที่โปเกมอนของขุนศึกระดับบุคคลสำคัญนั้น ไม่ได้รับความเสียหายเลย
ก็จะสามารถเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้าร่วมกองทัพของเราได้ในทันที )
ในขณะที่พวกตัวละครเอกกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น สมาชิกกลุ่มขุนศึกวัยเยาว์ก็ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง
พวกเขาได้พูดถึง 2 ยอดนักรบที่ครอบครองดินแดนใกล้เคียง
ซึ่งลือกันว่า แม้กระทั่ง Nobunaga เอง ก็ยังลังเลที่จะเข้าทำการโจมตี
เมื่อเล่าจบแล้ว สมาชิกกลุ่มขุนศึกวัยเยาว์ก็จะเดินทางจากไปตามเคย
หลังจากนี้ ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่า จะเข้าทำการโจมตีเมือง Illusio ของ Kenshin
หรือจะเข้าทำการโจมตีเมือง Terrera ของ Shingen
สำหรับการบุกโจมตีครั้งแรกนั้น ไม่ว่าผู้เล่นจะเลือกโจมตีฝั่งไหน ผลก็จะเหมือนกัน คือ
ทั้ง Kenshin และ Shingen จะบอกว่า ตัวละครเอกนั้นยังไม่คู่ควรที่จะรบกับเขา และจะไม่ยอมต่อสู้ด้วย
หลังจากที่พวกตัวละครเอกถอยทัพกลับมาด้วยความผิดหวังนั้น ทางฝั่งศัตรูก็ได้ยกทัพเข้ามาบุกอย่างกะทันหัน
ซึ่งถ้าเลือกที่จะโจมตีเมือง Illusio
Aya พี่สาวของ Kenshin จะเป็นผู้ที่ยกทัพมาทดสอบฝีมือของผู้เล่น
Aya พี่สาวของ Kenshin จะเป็นผู้ที่ยกทัพมาทดสอบฝีมือของผู้เล่น
แต่ถ้าเลือกที่จะโจมตีเมือง Terrera
Shingen จะส่ง Yukimura มาทดสอบฝีมือของผู้เล่น
Shingen จะส่ง Yukimura มาทดสอบฝีมือของผู้เล่น
Ability test
เงื่อนไขในการผ่านฉากนั้น จะขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นเลือกที่จะโจมตีฝั่งไหน
ถ้าเป็นการรบเพื่อป้องกันเมืองจากกองทัพของ Aya ก็จะใช้กติกาของเมือง Chrysalia
แต่ถ้าเป็นการรบเพื่อป้องกันเมืองจากกองทัพของ Yukimura ก็จะใช้กติกาของเมือง Pugilis
แต่ถ้าเป็นการรบเพื่อป้องกันเมืองจากกองทัพของ Yukimura ก็จะใช้กติกาของเมือง Pugilis
ศัตรูภายในฉาก :
ฝั่ง Aya
ฝั่ง Yukimura
เมื่อสามารถเอาชนะได้แล้ว ทางฝั่งศัตรูก็จะยกทัพกลับไป
และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นกับตัวละครเอก
และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นกับตัวละครเอก
ซึ่งก็คือ การเลื่อนระดับเป็นขุนศึกขั้น 2 นั่นเอง
ในตอนนี้ เมื่อผู้เล่นกดสั่งโจมตีเมืองของทาง 2 ยอดฝีมืออีกครั้ง
ก็จะพบว่า ตัวละครเอกนั้นได้เป็นที่ยอมรับของพวกเขาแล้ว
ก็จะพบว่า ตัวละครเอกนั้นได้เป็นที่ยอมรับของพวกเขาแล้ว
Illusio
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะใช้กติกาการยึดธงเป็นหลัก ซึ่งถ้าฝ่ายไหนสามารถยึดธงได้ครบก่อน ก็จะชนะ
เป็นสนามรบลอยฟ้า ที่ต้องอาศัยแผ่นหินเคลื่อนที่ในการเดินทาง
ซึ่งจุดวาร์ปที่เป็นสีต่าง ๆ ภายในฉากนั้น จะสุ่มเปลี่ยนจุดไปเรื่อย ๆ เมื่อจบ Turn
เมื่อโปเกมอนได้เข้าไปแล้ว จะไปโผล่ในจุดที่ต่าง ๆ กันไป
ซึ่งจุดวาร์ปที่เป็นสีต่าง ๆ ภายในฉากนั้น จะสุ่มเปลี่ยนจุดไปเรื่อย ๆ เมื่อจบ Turn
เมื่อโปเกมอนได้เข้าไปแล้ว จะไปโผล่ในจุดที่ต่าง ๆ กันไป
เงื่อนไขการรบชนะ : ทำการยึดธงทั้ง 4 มุมให้ครบ
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดได้ก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
Terrera
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีหอคอยสูง ๆ ตั้งอยู่ภายในฉากด้วยกันทั้งหมด 3 จุด ซึ่งแต่ละจุด จะมีธงปักอยู่บนส่วนยอด
ซึ่งโปเกมอนของแต่ละฝ่าย จะต้องยึดธงที่มีอยู่ภายในฉากให้ครบทั้งหมด จึงจะได้รับชัยชนะ
จะมีหอคอยสูง ๆ ตั้งอยู่ภายในฉากด้วยกันทั้งหมด 3 จุด ซึ่งแต่ละจุด จะมีธงปักอยู่บนส่วนยอด
ซึ่งโปเกมอนของแต่ละฝ่าย จะต้องยึดธงที่มีอยู่ภายในฉากให้ครบทั้งหมด จึงจะได้รับชัยชนะ
( การที่จะสามารถขึ้นไปยังส่วนยอดของหอคอยได้นั้น
จำเป็นที่จะต้องนำโปเกมอนไปเหยียบบนลิฟท์โบราณ )
โดยจะมีลูกเล่นเพิ่มเติม คือ พายุทรายที่จะคอยพัดให้เหล่าโปเกมอนตกลงมายังพื้นทรายด้านล่าง
( หากถูกพัดจนตกลงมา จะได้รับความเสียหายที่ค่อนข้างหนัก
แต่โปเกมอนจำพวกนก ที่บินได้ จะไม่ได้รับความเสียหายจากการถูกพัดตกลงมาแต่อย่างใด )
จำเป็นที่จะต้องนำโปเกมอนไปเหยียบบนลิฟท์โบราณ )
โดยจะมีลูกเล่นเพิ่มเติม คือ พายุทรายที่จะคอยพัดให้เหล่าโปเกมอนตกลงมายังพื้นทรายด้านล่าง
( หากถูกพัดจนตกลงมา จะได้รับความเสียหายที่ค่อนข้างหนัก
แต่โปเกมอนจำพวกนก ที่บินได้ จะไม่ได้รับความเสียหายจากการถูกพัดตกลงมาแต่อย่างใด )
เงื่อนไขการรบชนะ : ทำการยึดธงบนยอดหอคอยให้ครบ
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดได้ก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
*** หากใช้โปเกมอนของ Motochika และ Motonari
ก็จะสามารถจัดการกับ Rhyperior ที่มีพลังโจมตีอันหนักหน่วงได้อย่างง่ายดาย ***
ก็จะสามารถจัดการกับ Rhyperior ที่มีพลังโจมตีอันหนักหน่วงได้อย่างง่ายดาย ***
เมื่อชนะแล้ว 2 ยอดขุนศึก ก็จะขอเข้าร่วมกับกองทัพเรา
เพื่อช่วยปลดปล่อย Ransei ให้พ้นจากอำนาจของ Nobunaga
เพื่อช่วยปลดปล่อย Ransei ให้พ้นจากอำนาจของ Nobunaga
( ตรงจุดนี้ ถ้าหากต่อสู้ชนะ Kenshin ก็จะได้ทั้ง Kenshin , Aya , Kanetsugu
และ Shingen มาเข้าร่วมกองทัพ แต่จะไม่ได้ Yukimura กับ Kunoichi
แต่ถ้าต่อสู้ชนะ Shingen ก็จะได้ทั้ง Shingen , Yukimura , Kunoichi
และ Kenshin มาเข้าร่วมกองทัพ โดยจะไม่มี Aya และ Kanetsugu อยู่ในนั้น
และ Shingen มาเข้าร่วมกองทัพ แต่จะไม่ได้ Yukimura กับ Kunoichi
แต่ถ้าต่อสู้ชนะ Shingen ก็จะได้ทั้ง Shingen , Yukimura , Kunoichi
และ Kenshin มาเข้าร่วมกองทัพ โดยจะไม่มี Aya และ Kanetsugu อยู่ในนั้น
ซึ่งผู้เล่น สามารถออกตามหาขุนศึกระดับบุคคลสำคัญที่ขาดไป
ได้จากการสุ่มปรากฏตัวในดันเจี้ยน )
และในขณะที่กำลังรับประทานอาหารเย็นกันอยู่นั้นเอง
Nobunaga ก็ได้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน พร้อมกับ Zekrom โปเกมอนในตำนาน
สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณ
Nobunaga ก็ได้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน พร้อมกับ Zekrom โปเกมอนในตำนาน
สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ทุกคนที่อยู่ในบริเวณ
แต่การปรากฏตัวของเขาครั้งนี้ เป็นเพียงแค่การมาแวะมาทักทายเหล่าศัตรู
และ Oichi ผู้เป็นน้องสาวเท่านั้น
และ Oichi ผู้เป็นน้องสาวเท่านั้น
ซึ่งเขาได้บอก ก่อนที่จะเดินทางจากไป ว่า
เขาจะรอพวกตัวละครเอก อยู่ที่เมือง Dragnor
ในตอนนี้จะมีเป้าหมายการโจมตีใหม่เพิ่มเข้ามา 4 เมือง
คือ Cragspur , Viperia , Yaksha และ Avia
ซึ่งเป็นเขตการปกครองที่อยู่ใต้สังกัดของ Nobunaga
โดยทางเมือง Avia นั้น ดูเหมือนว่าจะมีกำลังรบที่แข็งแกร่งมากเป็นพิเศษ
ทำให้โอกาสที่ผู้เล่นจะชนะนั้นมีต่ำ
ผมจึงอยากแนะนำให้ไปตีเมือง Cragspur ที่ง่ายที่สุดในบรรดา 4 เมืองนี้ก่อน
Cragspur
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
เราจะตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ เนื่องจากได้เข้าสู่สนามรบที่ถูกฝ่ายศัตรูดัดแปลงมาเป็นอย่างดี
หินยักษ์ที่อยู่รอบ ๆ นั้น จะกลิ้งลงมาทับเป้าหมายที่อยู่ข้างล่างเสมอ
ไม่ว่าโปเกมอนฝ่ายไหนจะไปโจมตีใส่ก็ตาม
( ซึ่งพื้นที่ในสนามรบ จะบังคับให้เราต้องเดินขึ้นไปหาศัตรู )
ประตูหินที่ขังเราไว้ในตอนแรกนั้น
สามารถเปิดได้โดยการนำโปเกมอนไปเหยียบปุ่มกลไกที่อยู่ในห้อง
( โปเกมอนประเภทนก ที่บินได้ จะสามารถบินข้ามประตูหินไปได้ในทันที )
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Cragspur ได้ ส่วน Ujiyasu และ Kai นั้น จะหนีไป
ในขณะที่เหล่าตัวละครเอกกำลังจะเตรียมความพร้อมสำหรับการออกรบครั้งต่อไปอยู่นั้น
Keiji ก็ได้เดินทางผ่านมาเจอเข้าพอดี
ซึ่งคราวนี้ เขาได้นำของฝากอันล้ำค่ามาให้เราด้วย
เป็นไอเทมสำคัญ ที่ใช้สำหรับการวิวัฒนาการ Eevee
( วิธีการใช้ ให้กด A ตรงเมืองที่ตัวละครเอกอยู่ จากนั้นเลือก Equip
ซึ่ง Stone ทั้งสามแบบนั้น จะอยู่ในหมวดหมู่ไอเทมจิปาถะ ที่เป็นรูปเพชร
เมื่อให้ตัวละครเอกสวมใส่แล้ว ให้เข้าไปทำการต่อสู้
หลังจากที่ชนะ Eevee ก็จะทำการวิวัฒนาการ โดยจะเปลี่ยนธาตุไปตาม Stone ที่ผู้เล่นเลือกถือ )
สำหรับเป้าหมายต่อไปที่น่าสนใจนั้น จะมี Viperia และ Yaksha
ซึ่งทั้งสองเมืองนั้นต่างก็มีกำลังรบที่พอ ๆ กัน
ถ้าหากผู้เล่น เลือกที่จะโจมตีเมือง Viperia ก็จะได้พบเจอกับ Hideyoshi อีกครั้ง
ซึ่งคราวนี้เขาได้มาในมาดใหม่ ด้วยการอัพเกรดตัวเองเป็นขุนศึกขั้น 2
นอกจากนั้นยังมี Nene ภรรยาสุดสวยคอยตามมาคุ้มกันถึงสนามรบอีกด้วย
Viperia
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะใช้กติกาการยึดธง ฝ่ายไหนสามารถยึดได้ครบก่อนก็จะชนะ
โดยทางลับสไตล์นินจาที่อยู่บนพื้นนั้น ถ้าสั่งให้โปเกมอนกระโดดลงไป
ก็จะไปโผล่ที่อีกฟากหนึ่ง เป็นทางลับที่สามารถใช้งานเพื่อย่นระยะทางได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนั้นยังมียาพิษจำนวนมาก ที่ถูกฝ่ายศัตรูเททิ้งไว้ที่พื้น
ซึ่งถ้าไปเหยียบเข้าก็จะติดพิษ ทำให้สูญเสีย HP ไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ Turn
อีกจุดที่ต้องระวัง คือโปเกมอนของ Hideyoshi และ Hanzō นั้น เป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมาก
จึงควรนำโปเกมอนหลาย ๆ ตัวไปดักรุมจัดการให้เร็วที่สุด
( ควรจะรุมจัดการให้ได้ใน Turn เดียว เพราะถ้าหาก HP ของโปเกมอนใกล้หมด
Hideyoshi / Hanzō จะใช้ Warrior Skill ช่วย ซึ่งอาจทำให้เราตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้ )
เงื่อนไขการรบชนะ : ทำการยึดธงให้ครบทั้งหมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายศัตรูยึดธงทั้งหมดได้ก่อน , ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Viperia ได้ ส่วน Hideyoshi , Nene และ Hanzō นั้น จะหนีไป
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะ เราจะสามารถยึดเมือง Yaksha ได้ ส่วน Kotarō นั้น จะหนีไป
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราก็จะสามารถยึดเมือง Avia ได้ ส่วน Masamune และ Magoichi นั้น จะหนีไป
ถ้าหากผู้เล่นเลือกที่จะเข้าโจมตีเมือง Spectra
ก็จะต้องพอเจอกับ Nō ภรรยาของ Nobunaga
แต่ถ้าผู้เล่น เลือกที่จะโจมตีเมือง Yaksha
ก็จะต้องเจอกับ Kotarō และกองทัพนินจาของเขา ที่มาพร้อมกับเหล่าโปเกมอนความมืด
ก็จะต้องเจอกับ Kotarō และกองทัพนินจาของเขา ที่มาพร้อมกับเหล่าโปเกมอนความมืด
Yaksha
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
เมื่อสู้ไปได้สักพัก ก็จะมีการสุ่มโปเกมอนที่จะได้รับแจ๊คพอต
ซึ่งถ้าหากสุ่มไปโดนโปเกมอนตัวไหน
โปเกมอนตัวนั้นก็จะถูกวาร์ปไปยังห้องลับ ที่เต็มไปด้วยกล่องสมบัติ
( หากโดนสุ่มไปยังห้องลับ ผู้เล่นสามารถใช้ทางลับที่เป็นพุ่มไม้ เพื่อหนีออกมาได้ )
เมื่อสู้ไปได้สักพัก ก็จะมีการสุ่มโปเกมอนที่จะได้รับแจ๊คพอต
ซึ่งถ้าหากสุ่มไปโดนโปเกมอนตัวไหน
โปเกมอนตัวนั้นก็จะถูกวาร์ปไปยังห้องลับ ที่เต็มไปด้วยกล่องสมบัติ
( หากโดนสุ่มไปยังห้องลับ ผู้เล่นสามารถใช้ทางลับที่เป็นพุ่มไม้ เพื่อหนีออกมาได้ )
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะ เราจะสามารถยึดเมือง Yaksha ได้ ส่วน Kotarō นั้น จะหนีไป
ในตอนนี้ เป้าหมายการโจมตี ก็จะเหลือแค่ Avia เพียงเมืองเดียวแล้ว
ซึ่งขุนศึกผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้องรักษาหัวเมืองสำคัญแห่งนี้อยู่
ก็คือ Masamune ผู้ที่ถูกขนานนามว่า " มังกรตาเดียว "
ก็คือ Masamune ผู้ที่ถูกขนานนามว่า " มังกรตาเดียว "
Avia
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะเป็นการรบบนยอดเขาอันสูงชัน โปเกมอนที่บินไม่ได้นั้นจะค่อนข้างเสียเปรียบ
เนื่องจากต้องคอยอาศัยแท่นกระโดดช่วยในการเดินทางข้ามยอดเขา
ทำให้เข้าประชิดตัวฝ่ายศัตรูได้ลำบาก
จะเป็นการรบบนยอดเขาอันสูงชัน โปเกมอนที่บินไม่ได้นั้นจะค่อนข้างเสียเปรียบ
เนื่องจากต้องคอยอาศัยแท่นกระโดดช่วยในการเดินทางข้ามยอดเขา
ทำให้เข้าประชิดตัวฝ่ายศัตรูได้ลำบาก
อีกจุดที่ควรระวัง คือ การโจมตีของ Braviary โปเกมอนของ Masamune
ที่ทั้งหนักหน่วงรุนแรง และสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับโปเกมอนฝ่ายเราได้เป็นอย่างมาก
ผู้เล่นจึงควรนำโปเกมอนหลาย ๆ ตัว ไปดักรุมกำจัดให้ได้โดยไว
( ส่วน Carnivine ของ Magoichi นั้น เป็นโปเกมอนหญ้าก็จริง
แต่ด้วยการที่มี Ability ที่มีชื่อว่า Levitate ( ลอยตัว )
จึงเป็นเสมือนกับโปเกมอนที่บินได้ ดังนั้น การโจมตีใส่ด้วยธาตุดินจึงไร้ผล )
ที่ทั้งหนักหน่วงรุนแรง และสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับโปเกมอนฝ่ายเราได้เป็นอย่างมาก
ผู้เล่นจึงควรนำโปเกมอนหลาย ๆ ตัว ไปดักรุมกำจัดให้ได้โดยไว
( ส่วน Carnivine ของ Magoichi นั้น เป็นโปเกมอนหญ้าก็จริง
แต่ด้วยการที่มี Ability ที่มีชื่อว่า Levitate ( ลอยตัว )
จึงเป็นเสมือนกับโปเกมอนที่บินได้ ดังนั้น การโจมตีใส่ด้วยธาตุดินจึงไร้ผล )
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว เราก็จะสามารถยึดเมือง Avia ได้ ส่วน Masamune และ Magoichi นั้น จะหนีไป
แต่จู่ ๆ สมุนเอกของ Nobunaga
ที่มีชื่อว่า Mitsuhide ก็ได้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
ณ เมือง Avia ที่พวกตัวละครเอกเพิ่งจะยึดมาได้
ที่มีชื่อว่า Mitsuhide ก็ได้ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน
ณ เมือง Avia ที่พวกตัวละครเอกเพิ่งจะยึดมาได้
แต่การปรากฏตัวครั้งนี้ เป็นเพียงแค่การแวะมาทักทาย และพูดจาเย้ยหยันตัวละครเอกเท่านั้น
เมื่อได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูดแล้ว เขาจึงเดินทางกลับ
หลังจากนี้จะมีเป้าหมายในการโจมตีเพิ่มเข้ามาอีก 3 เมือง
ได้แก่ Valora , Spectra และ Nixtorm
เมื่อได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูดแล้ว เขาจึงเดินทางกลับ
หลังจากนี้จะมีเป้าหมายในการโจมตีเพิ่มเข้ามาอีก 3 เมือง
ได้แก่ Valora , Spectra และ Nixtorm
ซึ่งการที่จะสามารถสั่งโจมตีเมือง Nixtorm ได้นั้น
ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องตีฝ่าเมือง Spectra หรือ Valora ไปให้ได้เสียก่อน
ผู้เล่นจำเป็นที่จะต้องตีฝ่าเมือง Spectra หรือ Valora ไปให้ได้เสียก่อน
ถ้าหากผู้เล่นเลือกที่จะเข้าโจมตีเมือง Spectra
ก็จะต้องพอเจอกับ Nō ภรรยาของ Nobunaga
Spectra
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
จะมีวิญญาณอาฆาตคอยวนเวียนอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในฉาก
ถ้าโปเกมอนฝ่ายไหนเผลอเดินเข้าไปใกล้ ก็จะถูกมันสิงร่าง ทำให้ติดสถานะผิดปกติต่าง ๆ ได้
จะมีวิญญาณอาฆาตคอยวนเวียนอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในฉาก
ถ้าโปเกมอนฝ่ายไหนเผลอเดินเข้าไปใกล้ ก็จะถูกมันสิงร่าง ทำให้ติดสถานะผิดปกติต่าง ๆ ได้
นอกจากนั้นเสาหินผีสิงที่อยู่รอบ ๆ สุสาน จะสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้
ซึ่งในบางครั้ง เสาหินพวกนี้ก็จะเคลื่อนที่มาบังทางเดิน หรือท่าโจมตีระยะไกลของโปเกมอน
ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถโจมตีได้อย่างอิสระ และสะดวกเท่าที่ควรนัก
ซึ่งในบางครั้ง เสาหินพวกนี้ก็จะเคลื่อนที่มาบังทางเดิน หรือท่าโจมตีระยะไกลของโปเกมอน
ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถโจมตีได้อย่างอิสระ และสะดวกเท่าที่ควรนัก
และนับว่าเป็นโชคดีของผู้เล่น ที่ Okuni นั้นไม่ได้มาพร้อมกับ Volcarona ที่แข็งแกร่ง
จึงเป็นเรื่องง่าย ที่จะปราบศัตรูทั้งหมดในฉากนี้ ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ Turn
จึงเป็นเรื่องง่าย ที่จะปราบศัตรูทั้งหมดในฉากนี้ ภายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ Turn
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Spectra ได้ ส่วน Nō และ Okuni นั้น จะหนีไป
นอกจากนั้นแล้ว พวกเครื่องจักรกลดักขโมย ที่เคลื่อนที่ไปมาบนพื้นเหล็กนั้น
จะทำการดักจับโปเกมอนทุกตัว ที่เข้ามาใกล้รัศมีการตรวจจับของมัน
ซึ่งโปเกมอนที่ถูกมันจับได้ จะถูกนำไปวางทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในฉากแบบสุ่ม
สิ่งที่ควรระวังมากที่สุด คือ Metagross ของ Tadakatsu นั้นแข็งแกร่ง และโจมตีได้หนักหน่วงมาก
ปกติแล้ว Metagross นั้นจะเดินได้ใกล้ จึงมักจะถูกโปเกมอนที่โจมตีจากระยะไกลปราบเอาได้ง่าย ๆ
แต่ด้วยการที่มันอยู่ในสนามรบที่แคบเอามาก ๆ
จึงเหมือนกับว่าตัวเกมนั้นบังคับให้โปเกมอนของผู้เล่นยืนแลกกับ Metagross ในระยะประชิด
ซึ่งนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก
ถ้าไม่ได้ใช้การโจมตีในแบบ Super Effective ( ชนะทาง ) เข้าช่วย
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Valora ได้ ส่วน Ieyasu , Tadakatsu และ Ina นั้น จะหนีไป
Nixtorm
จุดเด่นของการรบครั้งนี้ คือ
จะมีธารน้ำแข็งกั้นระหว่างพื้นที่ของฝั่งเราและฝั่งศัตรู
ซึ่งถ้าโปเกมอนทั่วไป ได้เดินไปเหยียบพื้นน้ำแข็งนี้
ก็จะลื่นไถลเป็นแนวเส้นตรงไปจนสุดทาง หรือจนกว่าจะชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง / โปเกมอนตัวอื่น ๆ
ในขณะที่โปเกมอนหลาย ๆ ตัวของฝั่งศัตรูนั้น สามารถเดินบนน้ำแข็งได้โดยที่ไม่ลื่นไถล
ส่วนแผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนน้ำนั้น เมื่อไปเหยียบเข้า
ก็จะลอยไปตามน้ำ และจะหยุด เมื่อลอยไปจุนสุดทาง
นอกจากนั้น ถ้าหากโปเกมอนยืนอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เปราะบางนานเกินไป ก็จะทำให้พื้นน้ำแข็งนั้นแตก
( พื้นน้ำแข็งที่แตกไปแล้ว จะนับเป็นพื้นที่ ที่มีน้ำ ซึ่งโปเกมอนทั่ว ๆ ไป จะไม่สามารถเดินผ่านได้ )
จุดที่ควรระวัง คือ Musharna โปเกมอนของ Gracia
ซึ่งมี Ability ที่สามารถทำให้ศัตรูที่อยู่ใกล้ติดสถานะ " หลับ " ได้
และหลังจากที่หลับไปแล้ว ก็จะถูก Musharna โจมตีด้วยท่ากินฝัน ( Dream Eater )
( การติดสถานะหลับ จะทำให้โปเกมอนของเราเสีย Turn ไปฟรี ๆ และอาจตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้
ดังนั้นจึงควรนำโปเกมอนไปรุมจัดการ Musharna ก่อนเป็นตัวแรก )
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราก็จะสามารถยึดเมือง Nixtorm ได้ ส่วน Mitsuhide แล Gracia นั้น จะหนีไป
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
ส่วนทางด้านของเมือง Valora นั้น จะมี Ieyasu คอยคุ้มครองอยู่
ซึ่งนอกจากเขาแล้ว ยังมี Tadakatsu และ Ina ที่มีความสามารถในด้านการรบที่สูง
บวกกับการที่มีสนามรบที่ถูกดัดแปลงมาอย่างดี
จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ผู้เล่นจะสามารถชนะในการรบในครั้งนี้ได้
ซึ่งนอกจากเขาแล้ว ยังมี Tadakatsu และ Ina ที่มีความสามารถในด้านการรบที่สูง
บวกกับการที่มีสนามรบที่ถูกดัดแปลงมาอย่างดี
จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ผู้เล่นจะสามารถชนะในการรบในครั้งนี้ได้
Valora
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
หากมีโปเกมอนของฝ่ายไหนเข้าไปเหยียบฟันเฟืองจักรกลขนาดยักษ์แล้วล่ะก็
มันจะทำการหมุน และสับเปลี่ยนสิ่งกีดขวางที่มีอยู่ภายในฉาก
ซึ่งโปเกมอน จะไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวางที่ว่านี้ไปได้
ดังนั้นหากต้องการเข้าประชิดตัวศัตรู ผู้เล่นก็จำเป็นที่จะต้องวางแผน และสั่งการโปเกมอนให้เป็นระบบ
หากมีโปเกมอนของฝ่ายไหนเข้าไปเหยียบฟันเฟืองจักรกลขนาดยักษ์แล้วล่ะก็
มันจะทำการหมุน และสับเปลี่ยนสิ่งกีดขวางที่มีอยู่ภายในฉาก
ซึ่งโปเกมอน จะไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านสิ่งกีดขวางที่ว่านี้ไปได้
ดังนั้นหากต้องการเข้าประชิดตัวศัตรู ผู้เล่นก็จำเป็นที่จะต้องวางแผน และสั่งการโปเกมอนให้เป็นระบบ
นอกจากนั้นแล้ว พวกเครื่องจักรกลดักขโมย ที่เคลื่อนที่ไปมาบนพื้นเหล็กนั้น
จะทำการดักจับโปเกมอนทุกตัว ที่เข้ามาใกล้รัศมีการตรวจจับของมัน
ซึ่งโปเกมอนที่ถูกมันจับได้ จะถูกนำไปวางทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในฉากแบบสุ่ม
สิ่งที่ควรระวังมากที่สุด คือ Metagross ของ Tadakatsu นั้นแข็งแกร่ง และโจมตีได้หนักหน่วงมาก
ปกติแล้ว Metagross นั้นจะเดินได้ใกล้ จึงมักจะถูกโปเกมอนที่โจมตีจากระยะไกลปราบเอาได้ง่าย ๆ
แต่ด้วยการที่มันอยู่ในสนามรบที่แคบเอามาก ๆ
จึงเหมือนกับว่าตัวเกมนั้นบังคับให้โปเกมอนของผู้เล่นยืนแลกกับ Metagross ในระยะประชิด
ซึ่งนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก
ถ้าไม่ได้ใช้การโจมตีในแบบ Super Effective ( ชนะทาง ) เข้าช่วย
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราจะสามารถยึดเมือง Valora ได้ ส่วน Ieyasu , Tadakatsu และ Ina นั้น จะหนีไป
ในตอนนี้ เป้าหมายในการโจมตีก็จะเหลือเพียง Nixtorm แค่เมืองเดียวแล้ว
ซึ่งแน่นอนว่า เป็นกองทัพของ Mitsuhide ที่คอยปกป้องดินแดนแห่งนี้อยู่
ซึ่งแน่นอนว่า เป็นกองทัพของ Mitsuhide ที่คอยปกป้องดินแดนแห่งนี้อยู่
Nixtorm
จุดเด่นของการรบครั้งนี้ คือ
จะมีธารน้ำแข็งกั้นระหว่างพื้นที่ของฝั่งเราและฝั่งศัตรู
ซึ่งถ้าโปเกมอนทั่วไป ได้เดินไปเหยียบพื้นน้ำแข็งนี้
ก็จะลื่นไถลเป็นแนวเส้นตรงไปจนสุดทาง หรือจนกว่าจะชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง / โปเกมอนตัวอื่น ๆ
ในขณะที่โปเกมอนหลาย ๆ ตัวของฝั่งศัตรูนั้น สามารถเดินบนน้ำแข็งได้โดยที่ไม่ลื่นไถล
ส่วนแผ่นน้ำแข็งที่ลอยอยู่บนน้ำนั้น เมื่อไปเหยียบเข้า
ก็จะลอยไปตามน้ำ และจะหยุด เมื่อลอยไปจุนสุดทาง
นอกจากนั้น ถ้าหากโปเกมอนยืนอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เปราะบางนานเกินไป ก็จะทำให้พื้นน้ำแข็งนั้นแตก
( พื้นน้ำแข็งที่แตกไปแล้ว จะนับเป็นพื้นที่ ที่มีน้ำ ซึ่งโปเกมอนทั่ว ๆ ไป จะไม่สามารถเดินผ่านได้ )
จุดที่ควรระวัง คือ Musharna โปเกมอนของ Gracia
ซึ่งมี Ability ที่สามารถทำให้ศัตรูที่อยู่ใกล้ติดสถานะ " หลับ " ได้
และหลังจากที่หลับไปแล้ว ก็จะถูก Musharna โจมตีด้วยท่ากินฝัน ( Dream Eater )
( การติดสถานะหลับ จะทำให้โปเกมอนของเราเสีย Turn ไปฟรี ๆ และอาจตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้
ดังนั้นจึงควรนำโปเกมอนไปรุมจัดการ Musharna ก่อนเป็นตัวแรก )
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว เราก็จะสามารถยึดเมือง Nixtorm ได้ ส่วน Mitsuhide แล Gracia นั้น จะหนีไป
หลังจากนั้น เป้าหมายการโจมตีสุดท้าย ก็คือเมือง Dragnor ของ Nobunaga จะปรากฏออกมา
( ตรงจุดนี้ ผู้เล่นสามารถออกไปรวบรวมไอเทม , เก็บค่า Link , วิวัฒนาการโปเกมอน ฯลฯ ได้อย่างอิสระ
ซึ่งควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อม เพราะกองทัพของ Nobunaga นั้น แข็งแกร่งมาก )
ซึ่งควรที่จะเตรียมตัวให้พร้อม เพราะกองทัพของ Nobunaga นั้น แข็งแกร่งมาก )
Dragnor
จุดเด่นของการรบในครั้งนี้ คือ
เป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยเสาพลังงาน ที่จะยิงพลังงานเข้าใส่โปเกมอนทุกตัวที่เดินผ่าน
ซึ่งรูปแบบของโจมตีของเสา จะเปลี่ยนไปตามสีของเสานั้น ๆ
เช่น เสาสีเหลืองจะยิงสายฟ้าเข้าใส่ ส่งผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการชา ไม่สามารถขยับตัวได้ในบาง Turn
( เสาไร้สี จะทำการเพิ่ม HP ให้กับโปเกมอน ซึ่งจะต่างจากเสาอื่น ๆ ที่ยิงพลังงานเข้าโจมตี )
ซึ่งรูปแบบของโจมตีของเสา จะเปลี่ยนไปตามสีของเสานั้น ๆ
เช่น เสาสีเหลืองจะยิงสายฟ้าเข้าใส่ ส่งผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการชา ไม่สามารถขยับตัวได้ในบาง Turn
( เสาไร้สี จะทำการเพิ่ม HP ให้กับโปเกมอน ซึ่งจะต่างจากเสาอื่น ๆ ที่ยิงพลังงานเข้าโจมตี )
สิ่งที่ควรระวังมากที่สุด คือ Zekrom โปเกมอนในตำนานของ Nobunaga ที่โจมตีได้หนักหน่วงรุนแรง
นอกจากนั้นยังมี Ability ที่มีชื่อว่า Teravolt ซึ่งจะส่งผลทำให้โปเกมอนฝั่งเรา ที่โดน Zekrom โจมตีใส่
ไม่สามารถใช้ Ability ใด ๆ เพื่อทำการหลบหลีก , ป้องกัน หรือลดความเสียหายได้เลย
ดังนั้น ผู้เล่นจึงควรเลือกโปเกมอนที่ได้เปรียบในการต่อสู้กับ Zekrom มาทำการรบ
และควรที่จะรุมกำจัด Zekrom ให้ได้ภายใน Turn เดียว ถ้าหากสามารถเข้าประชิดตัวได้
เพราะถ้า HP ของ Zekrom ลดลงไปมาก ๆ Nobunaga จะใช้ Warrior Skill เข้าช่วย
ทำให้ Zekrom สามารถโจมตีได้ 2 ครั้ง ใน Turn เดียว
และยังสามารถทำให้โปเกมอนศัตรูติดสถานะสะดุ้ง ( Flinch ) ได้อีกด้วย
( โปเกมอนที่ติดสถานะสะดุ้ง จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย เป็นเวลา 1 Turn )
ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้
นอกจากนั้นยังมี Ability ที่มีชื่อว่า Teravolt ซึ่งจะส่งผลทำให้โปเกมอนฝั่งเรา ที่โดน Zekrom โจมตีใส่
ไม่สามารถใช้ Ability ใด ๆ เพื่อทำการหลบหลีก , ป้องกัน หรือลดความเสียหายได้เลย
ดังนั้น ผู้เล่นจึงควรเลือกโปเกมอนที่ได้เปรียบในการต่อสู้กับ Zekrom มาทำการรบ
และควรที่จะรุมกำจัด Zekrom ให้ได้ภายใน Turn เดียว ถ้าหากสามารถเข้าประชิดตัวได้
เพราะถ้า HP ของ Zekrom ลดลงไปมาก ๆ Nobunaga จะใช้ Warrior Skill เข้าช่วย
ทำให้ Zekrom สามารถโจมตีได้ 2 ครั้ง ใน Turn เดียว
และยังสามารถทำให้โปเกมอนศัตรูติดสถานะสะดุ้ง ( Flinch ) ได้อีกด้วย
( โปเกมอนที่ติดสถานะสะดุ้ง จะไม่สามารถทำอะไรได้เลย เป็นเวลา 1 Turn )
ซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด , จำนวน Turn ลดลงจนเหลือ 0 , กดเลือกถอยทัพ
ศัตรูภายในฉาก :
เมื่อได้รับชัยชนะแล้ว Nobunaga จะยกเมือง Dragnor ให้กับเรา
ซึ่งเขาได้หัวเราะออกมาอย่างน่าประหลาด ก่อนที่จะเดินจากไป
ในช่วงค่ำ เหล่าขุนศึกทั้งหลายต่างก็มาแสดงความยินดีกับตัวละครเอก
ที่สามารถปลดปล่อย Ransei ให้พ้นจากอำนาจของ Nobunaga ได้สำเร็จ
แต่ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเอง
ก็ได้มีลำแสงจำนวนมาก พวยพุ่งออกมาจากผลึกที่อยู่บนส่วนยอดของทุกปราสาท ใน Ransei
ก่อนที่จะมาบรรจบ และรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
ซึ่งเขาได้หัวเราะออกมาอย่างน่าประหลาด ก่อนที่จะเดินจากไป
ในช่วงค่ำ เหล่าขุนศึกทั้งหลายต่างก็มาแสดงความยินดีกับตัวละครเอก
ที่สามารถปลดปล่อย Ransei ให้พ้นจากอำนาจของ Nobunaga ได้สำเร็จ
แต่ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเอง
ก็ได้มีลำแสงจำนวนมาก พวยพุ่งออกมาจากผลึกที่อยู่บนส่วนยอดของทุกปราสาท ใน Ransei
ก่อนที่จะมาบรรจบ และรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
แล้วพุ่งเข้าใส่หอคอยลึกลับ ที่ตั้งอยู่ภายในเมือง Dragnor
ในตอนนี้ ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้ว่า
จะเข้าสู่ Infinite Tower ที่อยู่ภายในเมือง Dragnor ในทันที
หรือจะไปเตรียมความพร้อม ด้วยการเก็บค่า Link , วิวัฒนาการโปเกมอน ฯลฯ ก่อน
เมื่อผู้เล่นพร้อมแล้ว ให้เข้าไปในเมือง Dragnor
จะพบว่ามี Infinite Tower ตั้งอยู่ ก็ให้กดเข้าไปได้เลย
ซึ่งจะสถานที่แห่งนี้ จะเป็นสนามรบสุดท้ายของเนื้อเรื่องหลักในเกม
จะเข้าสู่ Infinite Tower ที่อยู่ภายในเมือง Dragnor ในทันที
หรือจะไปเตรียมความพร้อม ด้วยการเก็บค่า Link , วิวัฒนาการโปเกมอน ฯลฯ ก่อน
เมื่อผู้เล่นพร้อมแล้ว ให้เข้าไปในเมือง Dragnor
จะพบว่ามี Infinite Tower ตั้งอยู่ ก็ให้กดเข้าไปได้เลย
ซึ่งจะสถานที่แห่งนี้ จะเป็นสนามรบสุดท้ายของเนื้อเรื่องหลักในเกม
Infinite Tower
ทันทีที่มาถึงยังส่วนยอดของหอคอย ก็จะพบกับโปเกมอนลึกลับ ที่บอกกับตัวละครเอกว่า
" ให้ทำการ Link กับเขา และจงแสดงพลังที่มีอยู่ ให้เขาประจักษ์ "
" ให้ทำการ Link กับเขา และจงแสดงพลังที่มีอยู่ ให้เขาประจักษ์ "
เงื่อนไขการรบชนะ : ใช้ตัวละครเอก ทำการ Link กับ Arceus ได้สำเร็จ
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูก Arceus กำจัดทั้งหมด ( จะถือว่าเป็น Game Over ทันที )
ศัตรูภายในฉาก :
*** ผู้เล่นนั้นไม่สามารถที่จะเอาชนะ Arceus ในการต่อสู้ครั้งนี้ได้
เพราะตัวเกมได้บังคับให้ผู้เล่นใช้ตัวละครเอกทำการ Link กับ Arceus ***
เพราะตัวเกมได้บังคับให้ผู้เล่นใช้ตัวละครเอกทำการ Link กับ Arceus ***
เมื่อตัวละครเอกได้ทำการ Link กับ Arceus สำเร็จแล้ว
Nobunaga ก็จะปรากฏตัวพร้อมกับ Rayquaza โปเกมอนในตำนาน
และการต่อสู้ครั้งสุดท้าย ก็ได้เริ่มต้นขึ้น
Nobunaga ก็จะปรากฏตัวพร้อมกับ Rayquaza โปเกมอนในตำนาน
Final Battle
เงื่อนไขการรบชนะ : กำจัดศัตรูให้หมด
เงื่อนไขการรบแพ้ : ฝ่ายเราถูกกำจัดทั้งหมด ( จะถือว่าเป็น Game Over ทันที )
ศัตรูภายในฉาก :
หลักจากที่ได้รับชัยชนะแล้ว
Nobunaga ก็จะอธิบายเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา ให้ Oichi และตัวละครเอกฟัง
ส่วนทางด้าน Arceus นั้น ก็จะบอกว่า ตัวละครเอกนั้นยังเยาว์วัยเกินไป
และต่อจากนี้ ตัวละครเอกจะไม่ได้พบเห็นเขาอีก
จนกว่าจะถึงวันที่ตัวละครเอกนั้นแข็งแกร่งมากพอ
ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...
Nobunaga ก็จะอธิบายเกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขา ให้ Oichi และตัวละครเอกฟัง
ส่วนทางด้าน Arceus นั้น ก็จะบอกว่า ตัวละครเอกนั้นยังเยาว์วัยเกินไป
และต่อจากนี้ ตัวละครเอกจะไม่ได้พบเห็นเขาอีก
จนกว่าจะถึงวันที่ตัวละครเอกนั้นแข็งแกร่งมากพอ
ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...
หลังจากนั้น ตัวละครเอก ก็ได้คืนดินแดนต่าง ๆ ที่ได้ยึดครองไปก่อนหน้านี้ให้กับผู้ที่เคยปกครอง
และ Ransei ได้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
หลังจากที่ได้รับชมฉากจบแล้ว ให้ผู้เล่นทำการ Save
แล้วหลังจากนั้นจะเป็นการกลับเข้าสู่หน้าจอหลักอีกครั้ง
ให้ผู้เล่นเลือกเล่นต่อจาก Save เมื่อสักครู่
ก็จะมีเนื้อเรื่องพิเศษของบุคคลสำคัญต่าง ๆ มาให้เลือกเล่นเพิ่มเติม
โดยจะมีความลับต่าง ๆ มากมาย ที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปค้นหาอยู่
และ Ransei ได้กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
หลังจากที่ได้รับชมฉากจบแล้ว ให้ผู้เล่นทำการ Save
แล้วหลังจากนั้นจะเป็นการกลับเข้าสู่หน้าจอหลักอีกครั้ง
ให้ผู้เล่นเลือกเล่นต่อจาก Save เมื่อสักครู่
ก็จะมีเนื้อเรื่องพิเศษของบุคคลสำคัญต่าง ๆ มาให้เลือกเล่นเพิ่มเติม
โดยจะมีความลับต่าง ๆ มากมาย ที่รอให้ผู้เล่นเข้าไปค้นหาอยู่
______________________________________________________
22.42
ตอบลบตอนนี้แก้ไขความถูกต้องของข้อมูล Monferno แล้วนะครับ
( ตอนจัดทำรีบไปหน่อย เพราะเวลามีจำกัด จึงทำให้ใส่ข้อมูลผิด )